แพทย์แผนไทย โคราช รักษาโรค SLE ไขความลับวิธีรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง ( SLE)
รถตู้ให้เช่า ร้อยเอ็ด
หมอเอ ณัฐปราชญ์ คลินิก

ในตอนนี้หลายๆ ประเทศเริ่มมีการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวหลังวิกฤติโควิด-19 อย่างว่องไวและมีประสิทธิภาพ ประเทศไทยก็มีการแก้ไขปัญหาเช่นเดียวกัน

โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มีการจับมือกับสำนักงานการท่องเที่ยวอีก 29 ประเทศ โดยหล่อเลี้ยงความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยกลยุทธ์ Top of mind เผยแพร่โฆษณาเกี่ยวกับประเทศไทยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติอยากมาประเทศไทย

โดย ททท.ได้ทำการสำรวจนักท่องเที่ยวในตลาดสหราชอาณาจักร พบว่า มี 75% วางแผนจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ยินดีเข้ารับการฉีดวัคซีน หากเป็นกฎหรือข้อบังคับสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ และกลุ่มนักท่องเที่ยว อายุ 55 ปีขึ้นไป มีความต้องการในการเข้ารับการฉีดวัคซีนสูงที่สุด และ 9% ของนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ยังเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศไทยในปี 2564

นอกจากนี้ 41% ของนักท่องเที่ยวไม่เห็นด้วยกับมาตรการการกักตัวที่ประเทศปลายทาง แต่ 52% มองว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ หากมีการกักตัวสูงสุดไม่เกิน 5 วัน และ 62% ของนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ มีนักท่องเที่ยวอายุ 50 ปีขึ้นไป

ขณะที่ผลการสำรวจตลาดฟินแลนด์พบว่า 99% ของให้ความสำคัญในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อนออกเดินทางท่องเที่ยว และไม่มีข้อจำกัดในการเดินทางแล้ว และ 62% สนใจเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงฤดูหนาวปี 2564 และปี 2565 โดยภูเก็ต กระบี่ และเขาหลัก ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม รองลงมาได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า กรุงเทพฯ และหัวหิน และพบว่า 68% ยังไม่ตัดสินใจเดินทางหากมีเงื่อนไขการกักตัว มีเพียง 26% ที่ยอมรับการกักตัวได้ และ 13% ยอมรับได้หากต้องกักตัวไม่ถึง 10 วัน

ส่วนผลการสำรวจตลาดฝรั่งเศส หลังจากที่มีการประกาศความสำเร็จของวัคซีนต้านโควิด-19 มีการค้นหาเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 15% โดยการค้นหามากที่สุด ได้แก่ ดูไบ อิสตันบูล เกาะกัวดาลูป เกาะรียูเนียน ลอนดอน มาราเกช ปารีส เกาะมาร์ตินิก ลิสบอน และคาซาบลังกา และมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีการค้นหาเพิ่มขึ้นมากที่สุด หลังการประกาศเรื่องวัคซีน ได้แก่ ดูไบ 49% มาราเกช 27% กรุงเทพฯ 25%

ซึ่งทางด้านประเทศไทยได้มีการวางมาตรการการฉีดวัคซีนโควิดไว้ขั้นต่ำ 5 ล้านโดส ให้แก่พนักงานโรงแรมและคนในพื้นที่ 5 จังหวัดท่องเที่ยวล ได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี สุราษฎร์ฯ เชียงใหม่และกระบี่ ที่ครอบคลุมอย่างน้อย 2.5 ล้านคน และเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าแบบไม่ต้องกักตัวภายในไตรมาสที่ 4 (ต.ค.-ธ.ค.)

               ทั้งนี้ ยังมีการประเมินว่า ประเทศแรกที่น่าจะมาพัก คือ ประเทศรัสเซีย เนื่องจากมีบริษัทนำเที่ยวของรัสเซียแจ้งความประสงค์ว่า มีความต้องการเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากรัสเซียมาภูเก็ต วันละ 2 เที่ยวบิน เที่ยวบินละ 300-400 คน และอีกประเทศหนึ่ง คือ ประเทศอินเดีย โดยเฉพาะกลุ่มที่มาจัดงานแต่งงาน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก โดยมีโรงแรมที่เสนอตัวเข้าร่วมเป็นแอเรีย ควอรันทีน กระจายอยู่ใน 5 เมืองท่องเที่ยวหลัก คิดเป็นจำนวนห้องพักทั้งหมด 6,500 ห้อง ได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี กระบี่ เชียงใหม่ และ สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย)

นอกจากนี้ ทาง ททท. จะช่วยดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และประเทศต้นทางมีนโยบายให้เดินทางออกนอกประเทศได้ เข้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายในพื้นที่ 5 จังหวัดนี้ได้โดยไม่ต้องกักตัว และอยากให้มีการร่วมหารือกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว (NTO) ของประเทศในอาเซียน เพื่อออกพาสปอร์ตวัคซีนร่วมกันภายใต้มาตรฐานเดียว เช่น นักท่องเที่ยวคนใดที่ฉีดวัคซีนแล้วถือพาสปอร์ตวัคซีนสามารถเดินทางเข้าออกประเทศในอาเซียนด้วยกันโดยไม่ต้องกักตัวได้

               ทั้งนี้ ททท. ยังเน้นการทำตลาดเชิงรุกกับนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกล (Long Haul) อย่างเช่น ยุโรปและอเมริกา เพราะมีแนวโน้มว่าจะเดินทางเข้ามาในประเทศก่อน เพื่อขายแพ็กเกจท่องเที่ยวแบบ All Inclusive มุ่งเพิ่มยอดการใช้จ่ายต่อทริปต่อคน ด้วยการพัฒนารูปแบบกิจกรรมท่องเที่ยวให้ตอบโจทย์ความหลากหลายและมีมูลค่าสูงมากขึ้น ส่วนตลาดระยะใกล้ (Short Haul) อย่างอาเซียนและเอเชียตะวันออกอาจจะตามมาทีหลัง เพราะนโยบายของรัฐบาลจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ขอความร่วมมือประชาชนถ้าไม่จำเป็นก็ยังไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ

ซึ่งหวังว่า การทำการตลาดเชิงรุกนี้จะทำให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว และกลับมาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกครั้ง แรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเช่ารถบัสนำเที่ยว บริษัททัวร์ โรงแรมจะกลับมามีรายได้อีกครั้ง เพียงแต่ว่าระหว่างที่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ได้มีการเดินทางมาอยากให้คนไทยทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศก่อน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ.

 

Go to top