แพทย์แผนไทย โคราช รักษาโรค SLE ไขความลับวิธีรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง ( SLE)
รถตู้ให้เช่า ร้อยเอ็ด
หมอเอ ณัฐปราชญ์ คลินิก

usus1

พออายุเข้าวัยรุ่น 30 ปี ใครหลายๆ คนมักจะหนีไม้พ้นถึงปัญหาเรื่องระบบเผาผลาญ และระบบขับถ่าย เมื่อระบบเผาผลาญทำงานช้าลง และบางคนอาจเรียกว่าระบบเผาเผลาญเสื้อมไปแล้วเหรอเนี่ยะ

เมตาโบลิซึ่ม คือระบบการทำงานเผาผลาญของร่างกาย เมื่ออายุมากขึ้น การใช้ชีวิตพังมากๆ นอนน้อย ดื่มหนัก สูบบุรี่ อาหารการกิน รวมไปถึงการทานยาที่มีผลต่อประสาทมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ผ่านการลดความอ้วนมาจากการทานยาลดน้ำหนักที่มีผสมของไซบูทรามีน จะทำให้ เมตาโบลิซึ่ม เสื่อมเร็วขึ้น อดอาหาร ออกกำลังกายอย่างหนัก ก็ไม่ทำให้ผอมลงเลยสักนิด

Treating Weight loss through Ayurveda

หลายคน หันไปทานอาหาร ที่ควบคุมแคลลอรี่ เพิ่อคุมน้ำหนัก แต่ถ้า เมาโบลิซึ่ม เสื่อมสภาพแล้ว ยิ่งทำให้ระบบเผาผลาญพังเข้าไปใหญ่

เมื่อระบบเผาผลาญพัง ระบบอื่นๆ ในร่างกายก็ลวนไปด้วย รวมไปถึงระบบขับถ่าย
เมื่อของเสียไม่ได้ออกจากร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเงื่อ ของเหลว ปัสวะ หรืออุจาระ มันก็สะสมอยู่ในร่างกาย จนกลายเป็นสาเหตุของโรคอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นเมร็งลำใส้ โรคอ้วน หรืออื่นๆ

อะไรหล่ะ ที่ช่วยฟื้นฟู ระบบเมโบลิซึ่ม และระบบขับถ่ายของเสียของเรา
ระบบเผาผลาญ จำเป็นต้องฟื้นฟูด้วยอาหาร และการออกกำลังกายควบคู่ โดยจำเป็นต้องเลือกอาหารที่ช่วยให้ระบบของเราฟื้นฟูได้ ได้แก่ ผัก ผลไม้สด และธัญพืชช่วยเพิ่มอัตราเร่งในการเผาผลาญพลังงาน จึงควรรับประทานทุกวัน รวมถึงเมล็ดธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวซ้อมมือ ข้าวไรย์ และข้าวบาร์เลย์ในปริมาณมากๆ ถ้ายอดฮิตในหมู่คนที่ลดน้ำหนักตอนนี้น่าจะหนีไม่ได้คือ เมล็ดเจีย

ซึ่งมีสรรพคุณเยอะแยะมากมาย และที่สำคัญเมล็ดเจียมีโอเมก้า 3 6 9 มากกว่าจากปลาแซลลอล นม มากถึง 8 เท่า และช่วยในเรื่องของการทำงานของน้ำดีในตับอ่อนมากที่สุด จึงทำให้ช่วยฟื้นฟูระบบเผาผลาญได้เป็นอย่างดี
เมื่อระบบเผาผลาญดี แต่ร่างกายไม่สามารถขับถ่ายเอาของเสียออกมาไม่ได้ ก็ป่วยการเช่นเดิม ดังนั้น ทั้ง 2 อย่างต้องไปพร้อมๆ กัน เมื่อทั้ง 2 อย่างทำงานไปได้ดี ก็จะช่วยทำให้คุณๆ ทั้งๆหลาย ห่างไกลจากโรคอ้วน และเมร็งลำใส้
ระบบขับถ่ายดี คืออะไร เนื่องด้วยในลำใส้ใหญ่ของคนเรา จะมีแบคทีเรีย ที่อาศัยอยู่ ซึ่งจะมีทั้งแบคทีเรียชนิดดี และไม่ดี

Probiotic and Prebiotic Foods
แบคทีเรียดี คือ โปรไบโอติก
แบคทีเรียไม่ดี คือ อีโคไล
ซึ่งถ้าใครที่มีปัญหาเรื่องนี้ เดาได้ไม่ยากเลยค่ะ ว่าลำใส้คุณต้องมีแบคทีเรียไม่ดีมากกว่าชนิดที่ดี จำทำให้การขับถ่ายมีปัญหา และเมื่อมีอีโคไล มากเกินไป อาจนำไปสู่การเป็นเมร็งลำใส้ได้ค่ะ
ดังนั้นเราควรทำอย่างไร ทานอาหารที่มีกากใยมากๆ ก็แล้ว ดื่มน้ำมากๆ ก็แล้ว แต่มันก็เท่านั้น
สิ่งที่เราต้องทำคือทำให้ โปรไบโอติกมีมากพอ และแข็งแรงพอกับ อีโคไล เพื่อให้ทั้ง 2 สมดุลกัน จนนำไปสู่การขับถ่ายได้ดีเช่นกัน
ดังนั้นเราควรให้เสริมอาหารให้กับโปรไบโอติก ซึ่งนั้นก็คือ พรีไบโอติก
พรีไบโอติกคืออาหารของ โปรไบโอติก นั่นเอง เมื่อโปรไบโอติกได้รับอาหาร ก็มีความแข็งแรง และสร้างตัวเองให้เท่ากับชนิดไม่ดีได้

usus1

พรีไบโอติก หาได้จากไหนเหรอ ถ้าเราจะพูดยื่ดยาวตามข้อมูลที่คนเค้าเขียนกันไว้มากมาย คิดว่าอีกนานมากกว่า เราจะคุยกันจบ เราเอาง่ายๆ ดีกว่าเนอะ
พรีไบโอติก หาได้จาก โยเกริต ที่มีจุลิทรีย์ ประเภท ไบฟิโดแบคทีเรียม ไบฟิดุม (Bifidobacterium bifidum)ไบฟิโดแบคทีเรียม แอนิมาลิส (Bifidobacterium animalis DN173010) แล็คโตแบซิลลัส เคซิไอ (Lactobacillus casei) แล็คโตแบซิลลัส แอซิโดฟิลลัส (Lactobacillus acidophilus) โห หายากมาก บอกเลย พี่ไอไปเสาะหามาหมดแล้ว และแพงมากด้วย ที่สำคัญเราต้องดูข้างกล่องเลยว่ามีจำนวนมากเป็นล้านๆ ตัว ถึงจะผ่านไปถึงช่องท้องได้
ดังนั้น เราต้องหาพรีไบโอติก ที่สามารถผ่านช่องท้อง ผ่านลำใส้เล็ก ผ่านไปลำใส้ใหญ่ และให้อาหารกับโปรไบโอติกเราได้ ดังนั้น หาจากไหนหละค่ะ และสามารถผ่านช่องท้องไปยังช่องท้องได้ ก็คือ อินูลิน ซึ่งหาได้จาก Chicory root เห็ด หัวหอม หัวกระเทียม กล้วย และแก่นตะวัน
น่าจะเป็นแก่นตะวันนี้ที่หาง่ายที่สุด และพบมากที่สุด สรรพคุณปังที่สุดค่ะ

kentawan
เพราะแก่นตะวัน มีอินนูลิน มี FOS และมีพีไบโอติก ที่ไม่สามารถย่อยได้ สามารถเดินทางผ่านช่องท้อง ลำใส้เล็ก จนไปลำใส้ใหญ่ และที่สำคัญช่วยฟื้นฟูระบบขับถ่าย ได้ดีมาก
ซึ่งไม่ได้แค่ช่วย ในระหว่างที่เรากินแก่นตะวัน นะคะ แต่ยังช่วยฟื้นฟู ปรับสมดุลของร่างกาย เมื่อหยุดทานแล้ว ร่างกายเราก็กลับมาเป็นปกติ เหมือนวันเอาะๆ วัยยังสาว

ทั้งนี้ ทั้งนั้นค่ะ ทั้งหมดเป็นอาหาร ไม่สามารถหายได้ภายใน 7 วันแน่นอน เพราะไม่ใช่ยาคะ อย่างน้อยเริ่มเห็นผลหลังจากทานไปแล้ว 7 วัน เกิดการเปลี่ยนแปลงภาย 1 เดือน และที่สำคัญเห็นผลชัดเจนหลังจาก 3 เดือน

รู้ได้อย่างไรค่ะ ว่ามันพัง ง่ายมาก ออกกำลังกายหนักมาก แต่ไม่มีเหงื่อออกเลยสักเม็ดเดียว นี่แหละค่ะ มันไปแล้วจ้า

ขอขอบคุณบทความจาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=ijungko&month=11-12-2015&group=1&gblog=3

Go to top