เมื่อเริ่มต้นงานเทคอนกรีต ไม่ว่าจะเป็นเสา คาน หรือผนัง การเลือกไม้แบบก่อสร้าง คือขั้นตอนสำคัญที่กำหนดทั้งความเรียบเนียนของผิวคอนกรีตและความแข็งแรงของโครงสร้างชั่วคราว หากเลือกวัสดุไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาแบบแตก แบบบวม หรือคอนกรีตมีผิวที่ไม่เรียบ
ซึ่งนำไปสู่การเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการแก้ไข การเลือกไม้แบบก่อสร้างที่คุ้มค่าจึงต้องพิจารณาจากอายุการใช้งานและราคาต่อหน่วยเป็นหลัก บทความนี้จะเปรียบเทียบวัสดุยอดนิยมเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
1. ไม้อัดฟิล์มดำ ความคุ้มค่าที่มาพร้อมความเรียบเนียน
ไม้อัดฟิล์มดำถือเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในปัจจุบันสำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการผิวคอนกรีตที่เรียบเนียนสูง ไม้แบบก่อสร้างชนิดนี้ถูกเคลือบด้วยฟิล์มเมลามีนสีดำที่ช่วยป้องกันความชื้นและน้ำปูนไม่ให้ซึมเข้าไปในเนื้อไม้ ทำให้ผิวคอนกรีตที่ได้มีความสวยงามและไม่ต้องมีการฉาบตกแต่งมากนัก
- อายุการใช้งาน สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ประมาณ 10–20 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา
- ข้อดี ให้ผิวคอนกรีตที่สวยงาม ทนทานต่อการบิดตัว มีน้ำหนักเบา
- ข้อเสีย มีราคาสูงกว่าไม้แบบชนิดอื่นในครั้งแรก
2. ไม้อัดธรรมดา (ไม้อัดดำ) ทางเลือกประหยัดสำหรับการใช้งานทั่วไป
ไม้อัดธรรมดาที่ไม่ได้เคลือบฟิล์ม หรือมีการเคลือบเพียงเล็กน้อย เป็นไม้แบบก่อสร้างที่มีราคาถูกที่สุด เหมาะสำหรับงานที่ไม่เน้นผิวคอนกรีตที่สวยงามมากนัก หรือใช้ในงานโครงสร้างที่ต้องมีการฉาบปูนทับอยู่แล้ว
- อายุการใช้งาน สามารถใช้ซ้ำได้ประมาณ 3–5 ครั้ง
- ข้อดี ราคาเริ่มต้นต่ำที่สุดในบรรดาไม้แบบ
- ข้อเสีย ดูดซับความชื้นได้ง่าย ทำให้มีโอกาสบวมและบิดตัวสูง ผิวคอนกรีตที่ได้จะหยาบกว่า
3. ไม้จริง (ไม้กระบาก ไม้ยาง) เน้นความแข็งแรงเฉพาะส่วน
การใช้ไม้จริงในการทำไม้แบบก่อสร้างมักถูกสงวนไว้สำหรับส่วนที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ เช่น ค้ำยัน ตง (Joist) หรือค้ำยันโครงสร้างชั่วคราว ไม้จริงให้ความแข็งแรงทนทานสูงและสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้งหากมีการจัดเก็บที่ดี
- อายุการใช้งาน สามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง หากมีการดูแลรักษาที่ดี
- ข้อดี แข็งแรงและทนทานต่อแรงกดทับสูง
- ข้อเสีย มีราคาสูง, มีน้ำหนักมาก, และต้องใช้เวลาในการเตรียมและตัดไม้
การคำนวณความคุ้มค่าของ ไม้แบบก่อสร้าง
การพิจารณาว่าไม้แบบก่อสร้าง ชนิดใดคุ้มค่าที่สุด ต้องดูที่ “ต้นทุนต่อการใช้งาน 1 ครั้ง” ไม่ใช่ราคาซื้อเริ่มต้น แม้ไม้อัดฟิล์มดำจะมีราคาสูงในตอนแรก แต่หากสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ถึง 15 ครั้ง ต้นทุนต่อครั้งก็จะต่ำกว่าการใช้ไม้อัดธรรมดาที่ต้องซื้อใหม่บ่อยกว่า การจัดการไม้แบบก่อสร้างอย่างถูกวิธี เช่น การทาน้ำยาถอดแบบก่อนเทคอนกรีตและการจัดเก็บในที่ร่ม จะช่วยเพิ่มจำนวนครั้งในการใช้ซ้ำและทำให้การลงทุนใน ไม้แบบก่อสร้าง คุ้มค่าที่สุดในระยะยาว
