(กับดักชีวิต) บทที่ 9 โดย : ไอ้หัวเป็ด โคราช
เช้าของวันที่ 3 เดือนสาม อากาศวันนี้ช่างดีจริงๆ เย็นสบายแบบนี้ในช่วงเช้ามาสาม สี่วันแล้ว พอตกสายหน่อยก็กลับมาร้อนเหมือน เคยๆ เปลี่ยนหน้า เป็นหลังอยู่เสมอ
ขณะปั่นจักรยานกลับจากร้านกาแฟเจ้าประจำในซอย “วันดีๆ” ดูเหมือนว่าอะไรก็ดีแม้แต่กาแฟวันนี้รสชาดดีผิดจากวันก่อนๆ อร่อยกว่าทุกวัน ขณะที่ปั่นจักรยานก่อนจะถึงหน้าบ้าน เราต้องแวะร้านของชำเจ้าประจำ ซื้อน้ำแข็งหนึ่งถุง ในราคาห้าบาท เป็นปกติ ทำอย่างนี้เป็นประจำ แช่น้ำในกระติก ในยามอากาศร้อนๆ นี้ดีนักแล ถนนหน้าบ้านเดี่ยวนี้คึกคัก ด้วยเหตุความเจริญเข้ามามาก รถ 6 ล้อ บรรทุกดิน รถสองแถว เด็กซิ่ง เด็กแว้น - เด็กสก๊อย รถยนต์ส่วนบุคคล วิ่งกันอย่างเมามัน เหมือนไม่มีเวลาพัก หรือพวกเขาคงมีกิจการ กิจกรรม ต้องกอบโกย แข่งหกับเเศรษฐกิจที่ฟุบตัว ก่อนที่จะล่มสลาย ทั้งกลางวัน กลางคืน ดึกๆ ดื่นๆ ก็ไม่เว้น วิ่งกันขวักไขว่ จนหน้ากลัว (คนรักสัตว์ ต้องผวาไปตามๆ) ถนนยิ่งแคบ รถก็เยอะ อีกทั้งได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัตจากรถบรรทุกหนัก ถนนเส้นนี้ก็เลยปุ ปะไปหมดครับ ดูยังกับหนุ่มหน้าปลวก ยังหาคนรับผิดชอบไม่ได้ เห็นแก้ปัญหาด้วยการเอาดินที่วันๆ มันขนผ่าน เททิ้งไว้ รอรถคันต่อไปมาเหยียบย่ำ หวังจะให้มันแน่นเหมือนเดิม แบบนี้ปัดสวะให้พ้นตัวนี้หว่า นี้เรื่องจริงนะ ไม่ได้ว่าใครให้เสียหาย เพราะพวกเราใช้กันเอง ควรช่วยกันดูแลให้ดี ให้ใช้นานๆ หากยังเป็นเช่นนี้ก็อย่าใช้อารมณ์ เพราะช่วงล่างของรถคุณอาจเสียหายได้ ขอให้ช่วยนึกถึงเรื่องฝุ่นที่มันเยอะ ขับกันเบาๆ บ้าง สงสารบ้านที่เขาอยู่ติดถนนบ้างครับผม (ไม่รู้ร้องทุกข์กับใคร อายที่จะพูด) พูดแล้วก็เหมือนถ่มถุย ไม่มีประโยชน์ ก็นั้นละครับอะไรก็ไม่แน่ เป็นไปตามกรรม ธรรมดา อย่างวันนี้ก่อนเข้าบ้าน ที่หน้าประตู มีนกพิราบบาดเจ็บตัวหนึ่ง พยายามดื่มน้ำ ที่ไหลผ่านความลาดชันของพื้นที่หน้าบ้าน ก่อนหน้านั้นได้รดน้ำต้นไม้ ก่อนออกไปดื่มกาแฟนอกบ้าน ดูนกตัวนั้นแล้วให้เกิดสังเวชใจนัก เราเลยเปิดประตูรั้วทิ้งไว้สักครู่ เผื่อมันจะเข้ามาหลบภัย ดูเหมือนมันจะรู้ว่าเราเชื้อเชิญ มันเดินตามเราเข้ามาต่อยๆ อย่างระมัดระวังตัว ฉลาดรู้เรื่อง เหมือนถูกฝึกมาอย่างดี มันก็เดินกระย่องกระแย่ง สำรวจบริเวนพื้นที่จอดรถ เห็นแล้วก็ให้สงสาร เลยหยิบชามข้าวหมา ที่ยังมีข้าวอยู่พอสมควรเลื่อนๆ ไปใกล้ๆ มัน ในใจหวังให้มันได้กินอิ่มสักมื้อก่อนที่จะมีแรง แล้วบินจากไป เอื้อมมือหยิบถุงน้ำแข็งที่วางไว้กลับเข้าห้องเพื่อนำไปใส่กระติก เราหันไปดูมันด้วยยังห่วงๆ และหวั่นๆ ในใจยังไงก็ไม่รู้ เลยพูดลอยๆ ขึ้นว่า “ระวังแมวเด้อ” เท่านั้นละ เราก็กลับเข้าห้อง ส่วนน้ำแช็งก็วางข้างกระติกยังไม่ทันได้เทเลย เสียง กุก กักๆ ดังจากจุดที่เจ้านกพิราบตัวนั้นอยู่ เราก็รีบวิ่งออกไปดู ใจมันแวบขึ้นมาเหมือนหยั่งรู้โดยอัตโนมัติ “เรียบร้อย” เสร็จมัน แมวสีขาวลายด่างๆ สีน้ำตาลอ่อน ไม่รู้ของบ้านไหน (ที่จริงก็รู้อยู่เต็มอกว่าของใคร) อย่าไปพูดดีกว่า ไม่ชอบวุ่นวาย ก็แค่แมวตัว สองตัว กะว่ามีเศษอาหารก็ทิ้งให้มันกิน พอประทังชีวิตไปวันๆ แต่สิ่งที่ให้ดันกลายเป็นกับดัก ฆ่าชีวิตของเจ้านกที่น่าสงสาร ให้จบชีวิตลง ด้วยความหวังดีของเราแท้ๆ ไอ้ที่ไม่อยากให้มันโดนรถทับ กลับเป็นว่า นำพาชีวิตมาสังเวยเจ้าแมวเถื่อนเสียได้ อนิจจา ไม่เที่ยงจริงๆ ทุกสิ่งบนโลกนี้สุดที่ จะคาดเดา สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม อโหสิกรรมให้เราก็แล้วกันนะเจ้านก (หวังดี ประสงค์ดี แต่เหคุมันดันร้ายไปได้)