ล่าสุด นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชฯ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า หลังจากให้อาการ พ่นยาขยายหลอดลม ฉันยาละลายเสมหะ ก็ตรวจอาการช่วงนี้ ไม่มีไข้มาเป็นสองสัปดาห์กว่าแล้ว แนวโน้มทรงตัวต่อเนื่อง แต่ช่วงนี้ มีเสลดเสมหะยังมากอยู่ โดยเฉพาะช่วงกลางคืนเสลดเสมหะเยอะค่อนข้างมาก และมีอาการไอบ้างเป็นครั้งคราว แต่ท่านไอเอาเสลดเสมหะออกมาเองได้ แต่ก็ยังมากอยู่ ทำให้คณะแพทย์ต้องช่วยดูดเสลดเสมหะออกถึง 2-3 ครั้งเฉพาะกลางคืน ส่วนกลางวันแทบจะไม่ต้องมีการดูดเสลดเสมหะเลย สาเหตุอากาศเปลี่ยนแปลงตรงนี้เป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับตัวท่าน รวมทั้งสภาพอายุของท่าน และโรคประจำตัวท่านหลายโรค แต่จากการตรวจพบว่าเป็นเพียงหลอดลมอักเสบเท่านั้น ไม่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจทำให้คณะแพทย์เบาใจขึ้น แต่เราต้องเฝ้าดูภาวะแทรกซ้อนอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงกลางคืน และที่มีการไอเล็กน้อย ไม่มีการลำลักเกิดขึ้นมา ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายโมงถึงบ่ายสองโมง อากาศอุ่นเราก็ให้ท่านออกนอกห้องเปลี่ยนบรรยากาศทุกวันในช่วงนี้ โดยช่วงนี้ ถือว่า เป็นช่วงที่เหมาะสม อากาศอุ่น ทำให้ท่านสดชื่น ได้รับอากาศธรรมชาติ ไม่อุดอู่อยู่แต่ในห้อง โดยท่านทำกายบำบัดปั่นจักรยานไฟฟ้าทุกวันสร้างกล้ามเนื้อขา และขาได้ดี รู้ตัว รู้เรื่องหมด แต่ในช่วงเช้าท่านจะมีอาการเพลีย มีอาการง่วง ซึ่งคณะแพทย์ต้องของดเยี่ยม และงดรับกิจนิมนต์ เพื่อให้ท่านพักผ่อนจำวัดนานขึ้น แต่ในช่วงบ่าย 13.00 – 14.00 น. ในช่วง 3-4 วัน มานี้ หลังจากจำวัดดูท่านสดชื่น ตื่นตัวดี อารมณ์ดี พูดคุยได้นาน จำลูกศิษย์ได้ ก็ออกไปนอกห้อง โดยช่วงนี้ยังไม่ได้ยินท่านบ่นกลับวัดบ้านไร่ ส่วนกุฎิที่วัดบ้านไร่ทาบว่า น่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2556 ตามที่ลูกศิษยได้แจ้งให้ทราบ ฉะนั้น เรื่องกลับวัดบ้านไร่ในเดือนนี้(กุมภาพันธ์) คงจะนิมนต์กลับไม่ได้ ต้องให้กุฎิสมบูรณ์ก่อน คาดว่าน่าจะพิจารณากันอีกทีประมาณกลางเดือนมีนาคม 2556 หริอีกประมาณ 1 เดือนเศษ นพ.พินิศจัยฯกล่าว
ทั้งนี้ ได้มีประกาศโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เรื่อง อาการอาพาธพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ฉบับที่ 5 ตามที่พระเทพวิทยาคมได้เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2555 ผลการตรวจของคณะแพทย์ อาการโดยรวมดีขึ้น รู้ตัวดี สัญญาณชีพปกติ รับอาหารได้ดี แต่มีเสมหะ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยคณะแพทย์ยังคงให้การรักษาแนวทางเดิม โดยเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนในระบบต่างๆ ที่จะตามมาอย่างใกล้ชิด งดการเยี่ยมอาการอาพาธ เพื่อให้พระเทพวิทยาคมได้พักผ่อน
ที่มา:http://www.naewna.com/politic/41610