จากกรณีเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์อยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งที่ซอยลาดพร้าว 74 ซึ่งเป็นบ้านพักที่ปล่อยทิ้งรกร้างมาหลายปี ซึ่งบริเวณห้องน้ำชั้น 2 ของบ้าน พบโครงกระดูกมนุษย์ที่เสียชีวิตมาแล้วหลายปี คาดว่าน่าจะเป็น นางวาสินี เหโมภาส อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นผู้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง เชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตจากอาการป่วยในโรคชรา แต่ไม่มีผู้ใดทราบ สภาพศพจึงถูกถึงให้เน่าและแห้งไปตามกาลเวลานั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (12 พ.ย.) พ.ต.ท.เชาวฤทธิ์ เงินฉลาด พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ สามารถติดต่อญาติได้แล้ว เป็นน้องชายคนสุดท้องของผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ญาติแจ้งว่าจะเดินทางกลับมา เพื่อจัดการเรื่องศพ ภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ หรือไม่ก็ต้นเดือน ธ.ค.
จากการสอบถาม พบว่าผู้เสียชีวิตจะพักอยู่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียว หลังจากที่หย่ากับสามี เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ไม่มีบุตร และไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ส่วนคุณแม่ของผู้เสียชีวิต ขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่ อายุ 96 ปี ซึ่งพักอยู่กับน้องสาวของผู้เสียชีวิต แถวมหานาค โดยญาติได้เดินทางมาบ้านผู้เสียชีวิตครั้งล่าสุด เมื่อปี 2554 แต่เห็นว่าบ้านปิดและล็อคด้านใน จึงไม่ได้เอะใจเดินทางกลับ
สำหรับสภาพที่อยู่อาศัยของผู้ตาย ตำรวจเปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังจากตรวจรอบๆบ้านทั้งด้านข้างและด้านหลังก็เป็นบ้านร้าง ไม่มีคนอยู่ แต่การพบศพครั้งนี้ เนื่องจากบ้านอีกหลังที่อยู่ใกล้ๆ กัน ได้จ้างช่างมาต่อเติม จนกระทั่งช่างฝันว่ามีหญิงมาบอกว่าให้ไปดูที่บ้านหลังนั้นหน่อย เลยได้เข้าไปดู จนพบโครงกระดูก เลยแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 3 ปี
ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาก่อสร้างให้การว่า ก่อนพบซากกระดูก ทุกคืนในขณะที่ครึ่งหลับครึ่งตื่น ได้เห็นกลุ่มควันดำทะมึนขนาดใหญ่ลอยมาที่ปลายเท้า พร้อมทั้งบอกให้ตนรีบเข้ามาดูบ้านหลังนี้ ซึ่งช่วงแรกก็ไม่ได้เอะใจ แต่เนื่องจากพบเจอเหตุการณ์ชวนขนลุกนี้ทุกคืน ในวันนี้จึงตัดสินใจเข้าไปตรวจสอบดู กระทั่งพอขึ้นมาชั้นสองแทบผงะจนเข่าอ่อน เมื่อพบซากโครงกระดูกนี้อยู่ในห้องน้ำ ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งหนีและโทรแจ้งตำรวจ
