คุณฮวง ผู้ชนะเลิศเงาเสียง เติ้งลี่จวิน ประจำปี 59
เทศกาลง่วนเซียว : ตำนาน และเกร็ดนานาที่น่าสนใจ
คำว่า 元 หงวน หมายความว่า แรก
ส่วน 宵 เซียว หมายความว่า กลางคืน
เทศกาลหงวนเซียว จึงหมายถึง คืนที่พระจันทร์เต็มดวงครั้งแรกในรอบปีหลังผ่านพ้นตรุษจีน ตรงกับวันที่ 15 เดือนอ้ายในปฏิทินจันทรคติ ในวันนี้ชาวจีนจะนิยมกินขนมบัวลอยกันในครอบครัว และออกจากบ้านมาชมการประดับโคมไฟ เพื่อความเป็นสิริมงคล ดังนั้น จึงมีการเรียกเทศกาลนี้อีกอย่างว่า เทศกาลโคมไฟ (灯节)
ส่วนตำนานเกี่ยวกับที่มาของเทศกาลมีหลากหลายมาก อาทิ
1. ตำนานที่เกี่ยวกับเสนาบดีผู้เปี่ยมด้วยปัญญาและความกรุณา กับหญิงสาวยอดกตัญญู
ในสมัยกษัตริย์อู๋ตี้ของราชวงศ์ฮั่น ในเมืองหลวงฉางอัน ท่ามกลางหิมะโปรยปรายในช่วงใกล้วันตรุษจีน ขณะที่เสนาบดีนาม ตง ฟาง ซั่ว กำลังเดินชมดอกเหมยในอุทยาน ได้พบนางกำนัลนางหนึ่งกำลังจะกระโดดบ่อน้ำฆ่าตัวตาย จึงได้ขัดขวางและขอทราบถึงสาเหตุ นางจึงได้เล่าความทุกข์ให้ฟังว่า ตนชื่อ หยวน เซียว ถูกส่งเข้ามาอยู่ในวังตั้งแต่เยาว์วัยและขาดการติดต่อจากครอบครัว เมื่อถึงยามตรุษเช่นนี้จึงคิดถึงพ่อแม่พี่น้องที่เคยร่วมกันรับประทานอาหาร ในวันตรุษจีนอย่างอบอุ่นและมีความสุข และรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนอกตัญญู จึงตั้งใจจะฆ่าตัวตายหนีความทุกข์ เสนาบดีตง ฟาง ซั่วจึงปลอบใจและให้สัญญาว่าจะทำให้นางได้พบกับครอบครัวในวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือนอ้าย วันสารทที่ 2 จากนั้น ตง ฟาง ซั่ว จึงได้กระจายข่าวลือไปทั่วเมืองหลวงว่า “เมืองฉางอันมีเคราะห์ร้าย จะถูกไฟเผาไหม้ทั้งเมืองในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือนอ้าย แต่ก่อนจะถึงวันนั้นจะมีหญิงใส่ชุดแดงขี่ลามาเตือนชาวเมืองก่อน” จากนั้นได้เกณฑ์ชายชราไปรอต้อนรับ เมื่อชายชราไปพบนางชุดแดงก็ได้อ้อนวอนต่อนาง นางจึงได้กล่าวต่อชายชราว่า “เง็กเซียนฮ่องเต้ต้องการเผาเมืองฉางอันให้ลุกไหม้แดงฉาน หากนางไม่เผาเมือง เง็กเซียนฮ่องเต้จะลงโทษนางได้ และฝากส่งสารนี้ให้แก่ฮ่องเต้อู๋ตี้ด้วย” เมื่อความไปถึงฮ่องเต้ พระองค์ทรงตกพระทัยมาก จึงมีราชโองการให้ตง ฟาง ซั่ว สั่งการให้ขุนนางและประชาชนทุกครัวเรือนในนครฉางอันจุดโคมไฟสีแดงทั่วทั้ง เมือง และให้ชาวบ้านถือโคมแดงออกมาเดินตามท้องถนนในคืน 15 ค่ำ เดือนอ้ายโดยพร้อมเพรียงกันให้แสงไฟสีแดงสว่างไสวทั่วทั้งเมือง พร้อมให้มีการจุดประทัดและดอกไม้ไฟอย่างอึกทึก เพื่อลวงเง็กเซียนฮ่องเต้ว่าไฟกำลังลุกไหม้นครฉางอันอย่างรุนแรง ตง ฟาง ซั่วจึงได้จัดให้นางหยวน เซียวอยู่ในกลุ่มผู้ที่เดินถือโคมแดงเดินนำชาวบ้าน และให้โอกาสนางได้กลับบ้าน เพื่อทำขนมทังถวน(บัวลอย)และรับประทานร่วมกับครอบครัวอย่างมีความสุข จากเหตุการณ์ครั้งนั้น สำนักพระราชวังจึงได้ยึดถือเป็นงานประเพณีต่อเนื่องกันมาตราบจนทุกวันนี้
2. ตำนานที่เกี่ยวกับเง็กเซียนฮ่องเต้
นานมาแล้วในยุคที่ยังมีสัตว์ร้ายทำร้ายผู้คนมากมาย ทำให้มนุษย์ต้องรวมตัวกันต่อสู้กับสัตว์ร้ายเหล่านั้น กระทั่งวันหนึ่ง ได้มีวิหคสวรรค์บินหลงมายังโลก แล้วถูกมนุษย์ฆ่าตาย ทำให้เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงพิโรธ มีราชโองการให้เหล่าขุนพลสวรรค์เผาทำลายโลกมนุษย์ให้หมดสิ้น ในคืน 15 ค่ำเดือนอ้าย ในครั้งนั้นธิดาของเง็กเซียนฮ่องเต้ เกิดสงสารมนุษย์ จึงแอบลงมายังโลกมนุษย์เพื่อเตือนภัยล่วงหน้า เมื่อนั้นจึงมีผู้เฒ่าคนหนึ่งได้เสนอแผนการว่า ในคืนวัน 14 ค่ำ -16 ค่ำเดือนอ้าย ให้ทุกคนแขวนโคมประดับ จุดประทัดเสียงดัง พร้อมกับจุดพลุ ให้เง็กเซียนฮ่องเต้เข้าใจว่าโลกถูกเผาแล้ว เมื่อเง็กเซียนฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรลงมา ทรงเห็นว่าบนโลกนอกจากแดงเถือกไปหมดแล้ว ยังมีเสียงดังโหวกเหวก ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน จึงคิดว่าโลกได้ถูกไฟเผาไปแล้ว เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ทุกปีเมื่อถึง 15 ค่ำเดือนอ้าย ทุกๆบ้านก็จะมีการแขวนโคมไฟ และจุดประทัดเพื่อระลึกถึงวันดังกล่าว
สำนักงานข่าว ไอ้หัวเป็ด โคราช