แพทย์แผนไทย โคราช รักษาโรค SLE ไขความลับวิธีรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง ( SLE)
รถตู้ให้เช่า ร้อยเอ็ด
หมอเอ ณัฐปราชญ์ คลินิก

ไปเข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่กันมั้ย??

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้
บรรยากาศโต๊ะนั่งภายในร้าน “Camp Curry”
“ตระเวนกิน” ไม่ได้จะมาชวนบุกป่าฝ่าดง ไปเข้าแคมป์แบบลำบากลำบนที่ไหน แต่ว่าเราจะชวนไปเข้าแคมป์ กินข้าว

แกงกะหรี่แบบเก๋ไก๋ แถมสะดวกสบาย และอิ่มท้องเอามากๆ เพียงแค่พากันมาที่นี่ “Camp Curry” เป็นร้านอาหารขาย

ข้าวแกงกะหรี่ ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ นี่เอง

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้

โต๊ะนั่งตกแต่งได้บรรยากาศเหมือนมาเข้าแคมป์

     ร้าน “Camp Curry” แห่งนี้ เป็นร้านข้าวแกงกะหรี่ชื่อดังจากกรุงโตเกียว ก่อตั้งร้านขึ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2007

และมีถึง 30 สาขาที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วก็ได้มาตั้งแคมป์ขายข้าวแกงกะหรี่ยังประเทศไทยเป็นที่แรก เพื่อให้นักกินชาวไทย

ได้สัมผัสกับข้าวแกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ ที่มีคอนเซปต์เก๋ๆ ให้ความรู้สึกแก่นักกินทุกคนว่า เหมือนได้มาเข้าแคมป์

มานั่งทำข้าวแกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่นกินกันอย่างสนุกสนาน

 

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้

มุมโต๊ะชวนนั่งสบายๆ

     เมื่อเข้ามาภายในร้านได้อารมณ์ราวกับมาตั้งแคมป์จริงๆ บรรยากาศรายล้อมไปด้วยของตกแต่งอุปกรณ์แคมป์มากมาย

โต๊ะเก้าอี้จัดสรรไว้อย่างชวนนั่งสบายๆ มีโต๊ะให้เลือกนั่งหลายมุมตามชอบใจ อุปกรณ์การกินเลือกใช้ของเหมือนไปแคมป์

มีช้อนส้อมกินอาหารเป็นรูปพลั่วตักดินเก๋ๆ

     สำหรับเมนูข้าวแกงกะหรี่ของที่นี่เป็นสูตรแบบญี่ปุ่นขนานแท้ พิถีพิถันใส่ใจในเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพระดับพรีเมียม

มีความสดใหม่ เพื่อนำมาปรุงแต่งเป็นเมนูข้าวแกงกะหรี่ที่ชวนชิมมากมาย และเราสามารถออกแบบแกงกะหรี่

ที่ชื่นชอบได้ด้วยเอง โดยการเลือกท็อปปิ้งต่างๆ อาทิ ไก่ กุ้ง แซลมอน เนื้อวัว เนื้อหมู ไข่ออนเซ็น ชีส

ได้ตามชอบใจซึ่งเมนูข้าวแกงกะหรี่ของที่นี่จะจัดเสิร์ฟมาในกระทะร้อนทุกจาน ทางร้านจะแยกแกงกะหรี่ร้อนๆ มาให้เราเทราดลงไป

เหมือนได้ทำข้าวแกงกะหรี่กินเอง หรือจะให้ทางร้านเทราดให้ก็ได้

 

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้

แกงกะหรี่ผักรักสุขภาพ

     เอาเป็นว่าอย่ามัวเสียเวลา ตามมาชิมเมนูข้าวแกงกะหรี่จานเด็ดของที่นี่กันดีกว่า ประเดิมด้วยเมนูแรก

แกงกะหรี่ผักรักสุขภาพ (190 บาท+) เป็นเมนูซิกเนเจอร์จานเด่นดังที่ห้ามพลาด เป็นแกงกะหรี่แบบผัดสดใหม่ทุกจาน

ที่กินดีได้สุขภาพ เพราะทางร้านเลือกใช้ผักอย่างดีจากโครงการหลวงมาเป็นส่วนประกอบ และคำนวณปริมาณผัก

ที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน มาไว้ในจานนี้ ผักต่างๆ อย่างมะเขือเทศ หอมใหญ่ มันฝรั่ง มันม่วง นำไปผัดกับซอสแกง

กะหรี่สูตรพิเศษ เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวญี่ปุ่น และมีซอสแกงกะหรี่สูตรเฉพาะของทางร้านมาให้ราดด้วย

กินแกงกะหรี่ผักจานนี้แล้วถูกปากมากๆ ผักมีความสด ชุ่มรสชาติเครื่องแกงกะหรี่รสเข้มข้น กินเข้ากันดีกับข้าวญี่ปุ่นเคี้ยวนุ่มลิ้น

 

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้

แกงกะหรี่บาร์บีคิว

     ต่อด้วยเมนู แกงกะหรี่บาร์บีคิว (320 บาท+) ทางร้านนำเนื้อหมูส่วนช่วงท้องที่มีความมันน้อย มาตุ๋นกับ

เครื่องเทศต่างๆ รวมถึงผงกะหรี่ด้วยนาน 45 นาที เสิร์ฟมาแบบชิ้นโต พร้อมกับข้าวญี่ปุ่น และมีซอสบาร์บีคิว

สูตรพิเศษมาให้ราดลงบนเนื้อหมูและข้าว เวลากินแนะนำให้คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน จะสัมผัสได้ถึงรสชาติ

ความอร่อยของเนื้อหมูที่เปื่อยนุ่มเคี้ยวละมุนลิ้น ฉ่ำซอสบาร์บีคิวรสเข้มข้น มีกลิ่นหอมของเครื่องแกงกะหรี่อ่อนๆ

เข้ากันดีกับข้าวญี่ปุ่นเคี้ยวนิ่มละมุนปาก

 

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้

ราดแกงกะหรี่ลงในหม้อไฟ

      ตามมาด้วยเมนูนี้ แกงกะหรี่แคมป์ไฟไซส์จัมโบ้ (380 บาท+) เหมาะสำหรับกิน 2 คน เสิร์ฟมาแบบหม้อไฟ

ให้ต้มบนเตาไฟฟ้า คล้ายสุกี้ยากี้ญี่ปุ่น ในหม้อมีเครื่องต่างๆ ทั้งแครอท หัวไชเท้า ผักกาดขาว เห็ดหอม

ต้นหอมญี่ปุ่น แล้วก็เลือกใส่เนื้อสัตว์ต่างๆ อาทิ เนื้อหมู เนื้อวัว กุ้ง ไก่ ปลาแซลมอน (บวกราคาเพิ่ม)

ได้ตามชอบใจ แล้วจะมีน้ำซุปให้เติม พร้อมกับมีซอสแกงกะหรี่ให้ใส่ลงไปต้มรวมกัน กินร้อนๆ อร่อยถูกปากดี

ตรงที่ได้ซดน้ำซุปแกงกะหรี่หอมกรุ่น รสชาติกลมกล่อม เข้ากับเครื่องเคราต่างๆ ที่ต้มจนสุกได้ที่

 

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้

แกงกะหรี่แคมป์ไฟไซส์จัมโบ้

     กินเมนูนี้แล้วตอนท้ายขอแนะนำให้สั่งข้าวเติมลงไปในน้ำซุปที่เหลืออยู่จะได้เป็นข้าวต้มทรงเครื่อง หรือจะเติม

เส้นอุด้งลงไป เป็นอุด้งแกงกะหรี่ แบบที่คนญี่ปุ่นชอบกินก็เข้าท่าดีไม่แพ้กัน

 

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้

เนื้อสไลด์ผัดซอสสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่น

     แต่ถ้ายังไม่อิ่มจริงๆ ขอแนะนำ เนื้อสไลด์ผัดซอสสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่น (185 บาท+) เป็นเนื้อวัวส่วนที่มีเอ็นแทรก

นำมาผัดกับซอสสุกี้ยากี้สูตรเด็ดเฉพาะ มาพร้อมไข่ออนเซ็น ส่งชิ้นเนื้อเคี้ยวเข้าปากนุ่มหนึบกำลังดีได้รสชาติ

ซอสกลมกล่อม กินกับไข่ออนเซ็นช่างเข้ากันดี

 

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้

น่องไก่ผงกะหรี่คาราเกะ

     แล้วยังมีของกินเล่นที่น่าลองลิ้ม อย่าง น่องไก่ผงกะหรี่คาราเกะ (149 บาท+) เป็นน่องไก่นำมาคลุกกับเครื่อง

เทศและผงกะหรี่ ชุบแป้งทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ กินไก่กรอบนอกนุ่มในได้รสเครื่องหมักผงกะหรี่

จิ้มกินกับน้ำจิ้มคาราเกะรสเด็ดถูกปาก

 

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้

ไดกะคุอิโมะ

     ส่วนของหวานก็มีให้กินด้วย นำเสนอ ไดกะคุอิโมะ (80 บาท+) คือ มันหวาน ซึ่งเป็นของกินเล่นดั้งเดิมของคนญี่ปุ่น

ทางร้านเลือกใช้มันหวาน (มันเทศ) ของโครงการหลวง นำไปนึ่งให้สุกหอม แล้วเชื่อมกับน้ำผึ้งแท้ กินมันหวาน

หอมๆ เนื้อนุ่มลิ้น เสิร์ฟกับวิปครีมกินเข้าคู่กันดีจริง

 

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้

พุดดิ้งนมฮอกไกโด

     อีกหนึ่งของหวานที่ชวนกินคือ พุดดิ้งนมฮอกไกโด (150 บาท+) เป็นพุดดิ้งนมสดจากฮอกไกโดแท้ๆ

ทำแบบโฮมเมดสูตรพิเศษของทางร้าน ลิ้มรสพุดดุ้งเนื้อนุ่มเนียน ได้รสชาตินมฮอกไกโดเข้มข้น

แถมมีวิปครีมมาให้กินเคียงกัน

 

“Camp Curry” เข้าแคมป์ กินข้าวแกงกะหรี่ รสดีญี่ปุ่นแท้

บรรยากาศด้านหน้าร้าน “Camp Curry”

     นี่คือบางส่วนของเมนูข้าวแกงกะหรี่ และเมนูจานเด็ดต่างๆ ที่ชวนกิน แต่ว่าในเมนูอาหารก็ยังมีข้าวแกงกะหรี่อื่นๆ

ที่ชวนลองลิ้มอีก อาทิ แกงกะหรี่โตเกียว (140 บาท+) แกงกะหรี่เนื้อวัวสูตรคุณยาย (315 บาท+)

แกงกะหรี่หมูทอด (250 บาท+) แกงกะหรี่กุ้งทอด (230 บาท+) ข้าวหน้าฮายาชิ (150 บาท+) ฯลฯ

เรียกว่าถ้าใครเป็นสาวกข้าวแกงกะหรี่เลิฟเวอร์ มาที่ร้าน “Camp Curry” เป็นต้องโดนใจ อยากจะมาเข้าแคมป์ที่นี่กันบ่อยๆ เป็นแน่แท้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“Camp Curry” ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน (Siam Paragon) ปทุมวัน กทม. เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 0-2610-9612 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/campcurry

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณบทความจาก : http://manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9590000060859

Go to top