ถ้ามีใครมาถาม “ตระเวนกิน” ว่าเสน่ห์ของอาหารไทยอยู่ตรงไหน ในความรู้สึกส่วนตัวของเราที่ชื่นชอบกินอาหารไทยมากๆ
บรรยากาศโรงแรมอันร่มรื่นเป็นที่ตั้งของร้าน “บ้านใน”
ขอบอกเลยว่า อาหารไทยนั้นมีเสน่ห์ที่รสชาติอันครบรส ทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด มัน อีกทั้งหน้าตาของอาหารก็ชวนกินไม่แพ้อาหารชาติไหนๆ แถมยังมีเมนูที่หลากหลาย ทั้งต้ม ผัด แกง ยำ ทอด ให้ได้เลือกอร่อยตามใจปาก
พูดถึงอาหารไทยแล้วก็นึกอยากกินอาหารไทยอร่อยๆ ขึ้นมาเลย ทำให้ต้องออกไปเสาะแสวงหาอาหารไทยรสชาติดีมากำนัลปากท้อง และเราก็ได้มาฝากท้องอิ่มกับอาหารไทยรสเลิศกันที่ร้านนี้ “บ้านใน” เป็นร้านอาหารไทยที่มีความน่าสนใจ ตั้งอยู่ภายในโรงแรมบ้านใน ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นชวนให้มาสัมผัสกัน
บรรยากาศโต๊ะนั่งด้านในร้าน “บ้านใน”
เมื่อมาถึงยังโรงแรมบ้านใน จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของบ้านเก่าสไตล์โคโลเนียลอันงดงาม ถูกเนรมิตให้เป็นโรงแรมเล็กๆ ที่ดูอบอุ่น แวดล้อมไปด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ รื่นรมย์ด้วยสวนสวยๆ เมื่อเดินเข้าไปยังตัวโรงแรมก็จะพบกับร้าน “บ้านใน” ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านใน ทางร้านจัดสรรโต๊ะนั่งไว้ได้อย่างลงตัวเข้ากับเฟอร์นิเจอร์สวยๆ ชวนนั่งกินข้าวในบรรยากาศสบายๆ เหมือนอยู่บ้าน แล้วยังมีส่วนของโต๊ะนั่งด้านนอกตรงสวน และตรงระเบียงให้ได้นั่งกินข้าวรับลมธรรมชาติเย็นใจ
มุมโต๊ะชวนนั่งเหมือนอยู่บ้าน
ส่วนอาหารที่นี่นำเสนออาหารไทยโบราณสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่หากินที่อื่นได้ยากยิ่ง แต่ถ้ามาที่บ้านในแห่งนี้ จะได้ลิ้มรสอาหารไทยโบราณ ที่มีเสน่ห์ทั้งด้วยหน้าตาของอาหารที่ชวนกิน และรสชาติของอาหารที่ครบรสชาติ ทางร้านเน้นเรื่องของการคัดสรรแต่วัตถุดิบที่ดี มีคุณภาพ และใส่ใจในเรื่องการปรุงอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารไทยโบราณที่ชวนลิ้มรส มากมาย
น้ำมะตูม
ว่าแล้วก็เปิดเมนูเลือกสั่งอาหารไทยจานเด็ดของที่นี่มากินกัน แต่ก่อนที่จะสั่งอาหารมาชิมขอสั่ง น้ำมะตูม ( แก้วละ 80 บาท+) มาดื่มให้ชื่นใจกันก่อน น้ำมะตูมของที่นี่จะเลือกสั่งมาดื่มแบบเย็นหรือร้อนก็ได้ตามใจชอบ ทางร้านต้มน้ำมะตูมเอง โดยเลือกใช้มะตูมแห้งมาต้ม และมีเคล็ดลับเพิ่มความอร่อย ด้วยเอามะตูมไปเผาก่อน เพื่อที่ต้มแล้วจะได้กลิ่นหอมของมะตูมมากขึ้น ดื่มแล้ว น้ำมะตูมช่างหอมหวานชื่นใจ
ปลาแห้งแตงโม
จากนั้นมาชิมอาหารจานเด็ด ที่เลือกมาชิมคือ ปลาแห้งแตงโม (90 บาท+) เป็นเมนูของกินเล่นของคนโบราณ ที่หากินได้ยากแล้ว สีสันหน้าตาชวนกินมาก เป็นแตงโมหั่นมาเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ กินกับปลาช่อนป่นปรุงรสคลุกเคล้ามากับน้ำตาลและเกลือ เวลากินจิ้มแตงโมคลุกกับปลาช่อนแล้วส่งเข้าปาก เคี้ยวแตงโมเนื้อฉ่ำหวาน กลมกลืนรสชาติเข้ากับปลาช่อนหอมๆ ออกหวานลิ้น กินแล้วสดชื่นปากดี
เมี่ยงคำ
ถัดมาคือเมนู เมี่ยงคำ (130 บาท+) ที่เสิร์ฟมาแบบให้กินง่ายๆ จัดมาแบบเป็นคำๆ มีใบชะพลูที่ทางร้านปลูกเองแบบปลอดสารพิษ พร้อมด้วยเครื่องเมี่ยงคำ มีมะพร้าวคั่วหอมๆ ถั่วลิสงทางร้านก็คั่วเองแบบสดใหม่ กุ้งแห้ง พริกขี้หนู หอมแดง และมะนาว มาพร้อมกับน้ำเมี่ยงคำสูตรเด็ดเฉพาะของทางร้านที่ปรุงเคี่ยวมาแบบข้นๆ เวลากินก็ตักน้ำเมี่ยงลงไปแล้วห่อเป็นคำ ส่งเข้าปากเคี้ยวกร้วมคำโต สัมผัสได้ถึงรสชาติของน้ำเมี่ยงคำที่เข้มข้นกลมกล่อมลิ้น เข้ากันดีกับเครื่องเมี่ยงคำแบบครบรส
ยำดอกไม้
ต่อด้วยสวยๆ จานนี้ ยำดอกไม้ (160 บาท+) ทางร้านได้นำเอาดอกไม้ไทยๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ดอกเข็ม ดอกอัญชัน ดอกพวงชมพูที่ปลูกเอง รวมถึงยังมีดอกขจร มาชุบแป้งที่ปรุงรสไว้แล้วแล้วทอดจนได้ที่ แล้วก็ทำน้ำยำสูตรเด็ดที่ใส่หมูสับและกุ้งด้วย มาราดบนดอกไม้ สีสันขอยำดอกไม้ชวนกินดีจริง ชิมแล้วก็อร่อยลิ้นไม่ใช่น้อย ดอกไม้ต่างๆ เคี้ยวกรุบกรอบชุ่มน้ำยำรสชาติกลมกล่อมลงตัวเข้ากัน
ชุดน้ำพริกลงเรือ
แล้วมาอิ่มท้องกับเมนู ชุดน้ำพริกลงเรือ (250 บาท+) เป็นน้ำพริกลงเรือสูตรเด็ดที่มีส่วนผสมของหมูหวาน ปลาดุกฟูทอดกรอบ กะปิ กุ้งแห้ง มะดันหรือมะม่วง ทุกอย่างตำโขลกรวมกัน แล้วก็มีไข่แดงเค็มปั้นเป็นลูกกลมๆ ใส่มาด้วย กินเคียงกับผักสดต่างๆ ลองลิ้มน้ำพริกลงเรือรสชาติกลมกล่อมลิ้น ไม่หวานมาก ไม่เผ็ดจัด กินกับข้าวสวยหอมมะลิร้อนๆ ไข่เจียว และต้มจืดมะระอร่อยถูกใจ อิ่มแน่นท้องกันไป
ขนมพระพาย
แม้เหมือนจะอิ่มท้องแล้ว แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลือในกระเพาะพอที่จะลิ้มรสขนมหวานจานเด่น อย่าง ขนมพระพาย (100 บาท+) เป็นขนมโบราณที่นิยมทำในงานมงคล ขนมทำจากแป้งข้าวเหนียว ข้างในเป็นไส้ถั่วเหลืองกวน นึ่งสุกแล้วราดด้วยน้ำกะทิ ชิมขนมแป้งเคี้ยวนิ่มหนึบปาก ไส้ถั่วเหลืองหวานละมุนนุ่มลิ้น
และในเมนูก็ยังมีอาหารไทยโบราณอย่างอื่นที่ชวนกินอีกมากหลาย อาทิ ชุดข้าวมันส้มตำ (เมนูพิเศษ มีเป็นครั้งคราว 290 บาท+) ยำใหญ่ (160 บาท+) อีกทั้งที่นี่ยังมีอาหารยุโรปจานเด่นอื่นๆ ให้เลือกสั่งมาลิ้มรสกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น ซุปหัวหอม (140 บาท+) ซุปผักโขม (140 บาท+) สปาเก็ตตี้ซีฟู้ด (250 บาท+) ริบอายสเต๊ก (650 บาท+) เรียกว่ามื้อนี้มาที่ร้าน “บ้านใน” ได้อิ่มเอมกับอาหารไทยโบราณอย่างเต็มที่ หากใครชื่นชอบอาหารไทย อยากแนะนำให้มาสัมผัสกันด้วยตัวเอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“บ้านใน” ตั้งอยู่ที่ 102/13 ถนนกำแพงเพชร 5 สามเสนใน พญาไท กทม. เปิดวันอังคาร-พฤหัส (อาหาร) เวลา 14.00 - 22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ (อาหาร) เวลา 11.00 - 22.00 น. และ (afternoon tea) เวลา 14.00 - 17.00 น. หยุดวันจันทร์ ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2619-7430, 0-2619-8783 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/Baannai-995755303808853 หรือ www.baannaihotel.com
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ขอขอบคุณบทความจาก : http://manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9590000027578