ไม่รู้ว่ามิตรรักนักกินจะเป็นเหมือน “ตระเวนกิน” หรือเปล่า?? ที่หากว่าร้านอาหารในดวงใจเกิดย้ายร้านไปตั้งอยู่ยังสถานที่แห่งใหม่ ซึ่งไม่ว่า ใกล้-ไกลเพียงใด ยังไง เราก็จะยังตามไปกินอยู่เหมือนเดิม
บรรยากาศโต๊ะนั่งภายในร้าน “Anna & Charlie’s Cafe”
ที่เกริ่นมาแบบนี้ ก็เพราะว่าใน มื้อนี้ “ตระเวนกิน” ได้พาตัวเองมายังร้านอาหารชื่อว่า “Anna & Charlie’s Cafe” (แอนนา แอนด์ ชาลีส์ คาเฟ่) ) ตั้งอยู่ตรงถ.นราธิวาสราชนครินทร์ตัดกับถ.รัชดาภิเษก ที่เปิดมานานถึง 10 ปีแล้ว ซึ่งร้านนี้คือร้านเดียวกับร้านอาหารชื่อดังนาม ว่า “แอนนา คาเฟ่” ที่เคยเปิดอยู่ตรงซอยศาลาแดงมาก่อน แต่ได้ปิดตัวลงไปแล้ว
และทางร้านได้ย้ายร้านมาตั้งที่ใหม่ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “Anna & Charlie’s Cafe” ซึ่งถึงแม้ว่าร้านจะเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่สิ่งที่ทางร้านยังคงยึดมั่นไม่เปลี่ยนแปลงคือ เรื่องของอาหารที่ยังคงความเป็นตำรับเดิมไว้ ซึ่งมีรสชาติถูกปากโดนใจเหมือนเดิม จนทำให้เราต้องกลับมาลิ้มลอง
โซนโต๊ะนั่งสบายๆ
เมื่อมาถึงที่ร้านเราก็สัมผัสได้กับบรรยากาศร้านที่ดูรื่นรมย์ ได้อารมณ์เหมือนมานั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน ถูกตกแต่งได้กลิ่นอายสไตล์อังกฤษสวยๆ ดูอบอุ่นชวนนั่งสบายๆ มีโต๊ะให้เลือกนั่งหลากหลายโซนตามชอบใจ แถมยังมีดนตรีสดเล่นให้ฟังแบบเพลิดเพลิน ตั้งแต่ 19.00 - 22.00 น. ทุกวัน
ส่วนเรื่องอาหารอย่างที่บอกยังคงตำรับอาหารแบบดั้งเดิมไว้ ซึ่งที่นี่นำเสนออาหารไทย อาหารนานาชาติ และก็ยังมีการนำเอาอาหารไทยมาผสมผสานกับอาหารชาติอื่นๆ เป็นอาหารไทยฟิวชั่นจานใหม่สูตรเฉพาะที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมา ให้ได้อิ่มอร่อยกับเมนูจานเด็ดที่ทางร้านปรุงแต่งขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน แบบสไตล์โฮมเมด ที่คำนึงถึงความสดใหม่ของวัตถุดิบต่างๆ ที่นำมารังสรรค์เป็นเมนูจานเด็ดที่ชวนลิ้มลองกว่า 100 เมนู และในแต่ละเดือนก็ยังได้คิดเมนูจานใหม่ๆ หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนมาให้ได้ชิมกันตลอด
สตรอเบอร์รี่โมจิโต้
เรียกว่ามาที่ร้านนี้กางเมนูเปิดดูแล้ว จะได้เห็นเมนูละลานตาไปหมด ล้วนแล้วแต่ชวนกินทั้งนั้น เอาเป็นว่าเราขอแนะนำเมนูจานเด่นที่เมื่อมาถึงร้านแล้วก็ต้องสั่งมาขึ้นโต๊ะชิมกันให้ได้ก็แล้วกัน เริ่มด้วยขอสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาดื่มให้ชื่นใจกันก่อน กับ สตรอเบอร์รี่โมจิโต้ (110 บาท+) เป็นน้ำสตรอเบอร์นี่ไซรับผสมกับโซดา แล้วก็ใส่มะนาวฝานเป็นชิ้นมาด้วย เวลาดื่มต้องขนให้เข้ากันก่อน ดื่มแล้วหอมหวานสตรอเบอร์รี่อมเปรี้ยวนิดๆ สดชื่นดีจริง
ปลาหมึกผัดไข่เค็ม
จากนั้นก็มาชิมเมนูจานหลักจานเด่นอย่าง ปลาหมึกผัดไข่เค็ม (260 บาท+) เป็นหมึกกล้วยหั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำลวกให้สุกด้วยน้ำร้อน และช็อกด้วยน้ำแข็งเพื่อให้มีความกรอบ แล้วจึงนำมาผัดคลุกเคล้ากับซอสไข่เค็มที่ปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษตามสูตรเฉพาะของทางร้าน ใส่หัวหอมซอยและขึ้นฉ่ายให้หอมๆ ด้วย กินแล้วหมึกชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ สัมผัสได้ถึงความนุ่มเด้งกรึบกรอบของหมึกสด ชุ่มซอสไข่เค็มรสกลมกล่อม มันไข่เแดงเค็มถูกปากดีแท้
ปลาตาเดียวทอดกระเทียมซอสมะขาม
แล้วมาชิมเมนูปลาที่ขายดีประจำร้าน คือ ปลาตาเดียวทอดกระเทียมซอสมะขาม (320 บาท+) ทางร้านนำปลาตาเดียวสดๆ แล่เอาแต่เนื้อออกมาหั่นเป็นชิ้นๆ นำมาคลุกแป้งที่ปรุงรสไว้แล้ว ทอดจนเหลืองกรอบ แล้วก็นำมาวางเรียงบนตัวปลาเหมือนเดิม โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสมะขามที่ปรุงตามสูตรเด็ด ชิมเนื้อปลาตาเดียวกรอบนอกนุ่มใน ปลาเนื้อนิ่มไม่เละรสอร่อยลิ้น จิ้มกินคู่กับซอสมะขามเข้มข้นเจือรสเปรี้ยวนิดๆ กำลังดี
โรตีแกงเขียวหวาน
และก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้ โรตีแกงเขียวหวาน (ไก่หรือหมู 180 บาท+ เนื้อ 220 บาท+) ที่มีให้เลือกว่าจะสั่งเป็นหมู, ไก่ หรือเนื้อตามใจชอบ ที่เราสั่งมาเป็นแกงเขียวหวานไก่ ทางร้านนำเนื้อไก่ส่วนสะโพกไปเคี่ยวกับเครื่องแกงที่โขลกเองก่อนที่ผัดกับกะทิ และใส่กะทิคั้นสดที่ใช้แต่หัวกะทิเป็นหลัก ทำให้แกงเขียวหวานถ้วยนี้มีความเข้มข้น รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องแกง เนื้อไก่นุ่มชุ่มรสเครื่องแกง กินเข้ากันดีกับแป้งโรตีหอมๆ นุ่มๆ ที่เสิร์ฟมาให้
แกงส้มชะอมกุ้ง
อีกหนึ่งแกงที่อยากแนะนำ คือ แกงส้มชะอมกุ้ง (220 บาท+) ทางร้านโขลกเครื่องแกงส้มเอง ใช้เนื้อปลาช่อนล้วนๆ นำมาปรุงกับเครื่องแกง ใส่ไข่ชะอมที่มีชะอมเยอะมาก และก็ใส่กุ้งแชบ๊วย ได้ซดน้ำแกงส้มร้อนๆ แซบเด็ดโดนใจ มีความข้นกำลังดีจากเนื้อปลาที่ใส่มา ส่วนชะอมไข่ชิ้นใหญ่เคี้ยวนุ่มเต็มปากเต็มคำ ถูกปากดี
ทอฟฟี่บานอฟฟี่
กินเมนูของคาวไปหลายอย่างแล้ว ขอบอกว่าที่นี่มีเบเกอรี่โฮมเมดให้ได้กินกันด้วย มีเค้กหลายอย่างที่ชวนลิ้มรส อย่างที่อยากแนะนำก็มี ทอฟฟี่บานอฟฟี่ (95 บาท+) เป็นเค้กชูโรงประจำร้านที่ใครมาก็ต้องสั่ง ตัวเค้กด้านล่างเป็นแครกเกอร์ผสมเนย ชั้นถัดมาเป็นคาราเมลช็อกโกแลตที่เคี่ยวตามสูตรพิเศษ ชั้นต่อมาเป็นกล้วยหอมสุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆ วางเรียงไว้ แล้วท็อปด้วยวิปครีมตีฟู กินแล้วอร่อยโดนใจมากๆ กล้วยหอมนุ่มเนียนเข้ากับคาราเมลหอมหวาน และวิปครีมนุ่มละมุน
ครีมมี่เครป
ครีมมี่เครป (125 บาท+) เป็นอีกหนึ่งเค้กที่ชวนลิ้มรส ตัดเค้กเป็นเครปสดที่ทางร้านทำเอง นำแผ่นเครปมาเรียงถึง 18 ชั้น แต่ละชั้นสอดไส้ครีม แล้วราดด้วยซอสสตรอเบอร์รี่ กินเครปเนื้อนิ่มละมุนลิ้น ฉ่ำซอสสตรอเบอร์รี่หอมหวานอมเปรี้ยวนิดๆ โดนใจปาก
บรรยากาศโต๊ะที่ชวนนั่ง
เมนูทั้งคาว-หวาน ที่นำเสนอมานี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ซึ่งในรายการอาหารยังมีเมนูเด่นอื่นๆ ที่ชวนลิ้มรสอีก อาทิ ขาหมูส้มตำ (480 บาท+) ลาบแซลมอน (320 บาท+) น้ำพริกปลาย่างไข่เจียวคุณชาย (240 บาท+) ยำซีฟูดเส้นใหญ่หรอบ (320 บาท+) และอีกสารพัดเมนูเลิศรสมากหลาย ที่อยากจะขอชวนให้มิตรรักนักกินทั้งหลายได้ลองแวะมาชิมกันดู แล้วจะได้รู้ว่าทำไมร้าน “Anna & Charlie’s Cafe” จึงเป็นร้านในดวงใจของเรา
*****************************************************
“Anna & Charlie’s Cafe” (แอนนา แอนด์ ชาลีส์ คาเฟ่) ตั้งอยู่ที่ 177 ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. การเดินทางจากถ.นราธิวาสราชนครินทร์ มุ่งหน้าไปทางโรงเบียร์ตะวันแดง ผ่านครัวเจ๊ง้อ และตรงไปประมาณ 200 เมตร จะเห็นร้านแอนนาแอนด์ชาลีส์คาเฟ่ อยู่หัวมุมทางด้านซ้ายมือ เปิดทุกวันเวลา 11.00 - 23.00 น. ถ้ามากินช่วงเที่ยงแนะนำให้โทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2678-0092 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.annacharlie.net และ www.facebook.com/annacharliecafe
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ขอขอบคุณบทความจาก : http://manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000143294