แพทย์แผนไทย โคราช รักษาโรค SLE ไขความลับวิธีรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง ( SLE)
รถตู้ให้เช่า ร้อยเอ็ด
หมอเอ ณัฐปราชญ์ คลินิก

korat_travel

30 ปีในฐานะนักบริหารมืออาชีพ ตำแหน่งหน้าที่ก้าวหน้าโดยลำดับอยู่ในระดับสูงของธุรกิจโรงแรม 5 ดาวของไทย ตำแหน่งสุดท้ายคือผู้จัดการทั่วไปโรงแรมอมารีรินคำ จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะตัดสินใจเลิกบทบาทมือปืนรับจ้างมาเป็นอิสระที่บ้านเกิดเพียงไม่กี่ เดือนที่ผ่านมา ลงมือและลงทุนสร้าง Boutique Guesthome ที่พักแนวคิดใหม่ขึ้นพร้อมกัน 3 แห่ง ท่ามกลางกระแสว่าธุรกิจที่พักในเชียงใหม่กำลังปริ่มอยู่กับปัญหา Over Supply

“คิดว่าจะอยู่เชียงใหม่ที่เป็นบ้านเกิด หรือจะกลับไปกรุงเทพฯ ที่เป็นบ้านหลังที่ 2 มาคิดว่าเรากลับมาใช้ชีวิตที่เชียงใหม่ 3 ปี รักที่นี่และรู้จักพื้นที่พอควร ก็เลยเลือกเชียงใหม่ ถามต่อว่าถ้าอยู่จะทำอะไร มีคำตอบเดียวเท่านั้นคือทำที่พัก เพราะเป็นเรื่องเดียวที่เรารัก”

korat_travel


เมื่อตัดสินใจแล้วสิ่งที่ยากที่สุดคือต้องหาคำตอบว่าจะทำแบบไหน “อยู่ในวงการโรงแรม 30 ปีก็จริง แต่อยู่กับโรงแรม 4-5 ดาว ประสบการณ์ ทีมงาน ลูกค้า แขก และเครือข่ายที่จะสนับสนุนเราอยู่ในระดับโน้นหมด พอคิดว่าจะทำที่พักแน่ๆ แต่จะทำแบบไหน ใช้เวลาคิด คิดวนเวียนว่าจะทำโรงแรม 3 ดาว จะทำเป็นบูติก โฮเต็ล หรือจะทำอะไรดี ตอบตัวเองไม่ได้ มันไม่โดนใจ”

 


กระทั่งสุดท้ายคิดถึงประสบการณ์ระหว่างเดินทางที่มีบ่อยครั้งตลอด 30 ปีที่ผ่านมา มีทั้ง Business Trip และ Leisure Trip

 


“Business Trip เครียด และถึงเราจะหมดจากการประชุม จะพักผ่อนก็ยังต้องระวังตัว จะฟังเพลงที่ล็อบบี้ก็ต้องแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดี ต้องระวังพฤติกรรม พูดคุยกับผู้คนก็ไม่ได้ปล่อยเต็มที่ คือมันไม่ได้สบาย ไปไหนคนเดียวก็กลับคนเดียว ส่วน Leisure Trip เราจะผ่อนคลายมากกว่า ไปเป็นกลุ่มสนุกสนานเฮฮาแล้วก็กลับด้วยกัน มีความทรงจำด้วยกันในกลุ่มเล็กๆ จะทำอย่างไรว่าให้เราได้พักผ่อนสบาย ไปแล้วกลับพร้อมกับเพื่อนที่เพิ่มขึ้น เราน่าจะแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนหรือคนต่างถิ่น ที่เราไม่เคยรู้จัก มันจะเป็นการเดินทางที่มีค่ากว่า ได้คำตอบว่าที่พักจะต้องสบายๆ อยู่แบบบ้านเพื่อน เปิดโอกาสให้ได้เพื่อนกลับไปเพิ่ม มันเป็นคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน ทันทีที่เห็นภาพชัดเจน ไอเดียมันกระฉูด ใส่เกียร์สี่ไม่มีแตะเบรก

 


Boutique Guesthome 3 แห่งใน 3 ทำเล คือถนนนิมมานเหมินทร์ ริมคูเมือง และที่อำเภอแม่ริม ของเธอจึงมีลักษณะเป็นบ้านของเพื่อน ที่ทุกคนพักผ่อนได้อย่างสบาย ผ่อนคลาย ไม่มีพิธีรีตอง มีเครื่องดื่ม-ขนมที่ทุกคนหยิบรับประทานได้เหมือนบ้านตัวเอง แต่มีความสะดวกสบายเทียบเท่าโรงแรม ในราคาไม่แพง ด้วยพลังเหลือเฟือเธอเปิดพร้อมกัน 3 แห่ง และพบว่าต้องใช้ความอดทนอย่างแรงกล้าเพื่อก่อสร้างให้เสร็จ และเพื่ออดทนดูกิจการเดินหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว

 


“ที่สำคัญคือ ต้องรักจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะถอดใจ ช่วงก่อสร้างต้องให้กำลังใจตัวเองตลอดว่าอย่าท้อ เพราะมันมีปัญหาเข้ามามาก ตอนเราเป็นผู้บริหาร เราวางนโยบาย คิดกิจกรรม จากนั้นจะมีทีมสนับสนุน มีคนเข้ามาช่วยทำงานต่อ  แต่ตอนนี้คิดและทำเองเกือบทั้งหมด ต้องมีความรัก รักในงานบริการ รักในสิ่งที่เราทำ และต้องหาข้อมูลหาความรู้ในเรื่องที่เราจะทำตลอดเวลา”

 korat_travel


นิวัชรี พบว่า การทำงานแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง กับตลอดทุกปีที่ผ่านมา ความแตกต่างระหว่างโรงแรม 500-800 ห้องกับธุรกิจที่เธอลงทุนช่างกว้างไกล ทั้งเงินทุน การบริหาร

 


“ก่อนนี้เราในฐานะผู้บริหารเป็นคนคิด และมีคนมารองรับ แต่ละคนก็มีประสบการณ์ทั้งนั้น เราเลือกได้ว่างานนี้จะมอบให้ใคร พอมาทำเองอย่างแรกเงินทุนเราจำกัด จะต้องรู้ว่าจะใช้อย่างไรให้ได้ประโยชน์จริงๆ ต้องพยายามเซฟค่าใช้จ่ายทุกอย่าง พยายามทำอะไรเองให้มากที่สุด”

 


เธอตั้งชื่อที่พักของเธอว่า Indie House มาจาก Independence House หรือบ้านพักแสนอิสระ เพื่อบอกถึงความตั้งใจของเจ้าของ ที่อยากให้ทุกคนที่เข้ามาพักและจากไป มีอิสระทางการพักผ่อนและการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง เป็น Independence place for independence people

 


Independence ยังหมายถึงตัวเธอที่ตัดสินใจเป็นอิสระ เป็นนายตัวเอง หลังจากมีคนอื่นเป็นนายมาตลอดชีวิต เธออยู่ต้อนรับแขกทุกคนด้วยตนเอง วิ่งรอกดูแลแขกผู้พัก เล่นสนุกกับแขก รับประทานอาหารร่วมกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ชีวิตคล้ายวุ่นวายกว่าครั้งเป็นผู้บริหารโรงแรมใหญ่ แต่นี่คืออิสระที่เธอใฝ่ฝันมานาน

 


ส่วนเรื่องการตลาดสำหรับธุรกิจที่การแข่งขันรุนแรงนี้ นิวัชรีที่เติบโตมาจากสายการตลาด และมีสายเลือดนักการตลาดจากคุณพ่อที่เป็นมือขายระดับชาติของบริษัทประกัน ชีวิตข้ามชาติ บอกว่า เป็นเรื่องที่ต้องหาจุดยืนทางการตลาดของสินค้าของตัวเองให้ได้ รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับตัวเอง และแสวงหาลูกค้าอย่างไร ตอนนี้เธอใช้ Social Media และการบอกเล่าปากต่อปาก ซึ่งได้ผลระดับหนึ่ง แต่ยังต้องมีอะไรให้ทำอีกมาก

 


“ยังเชื่อว่าตัดสินใจไม่ผิด เชียงใหม่ยังมีศักยภาพอีกมากสำหรับการทำธุรกิจนี้ เพียงแต่ต้องทำงานหนัก ไม่ใช่ลงทุนแล้วจ้างให้คนเฝ้า มันมีรายละเอียดเล็กน้อยที่แขกคาดหวัง เราจะทำให้แตกต่างหรือเป็นไปอย่างที่เราคิดหรือไม่  ต้องลงมือเอง พิสูจน์เอง หมดยุคหากินง่ายๆ แล้ว”

 


สำหรับคนที่ยังคิดจะลงทุนโรงแรมในเชียงใหม่ นิวัชรีเชื่อว่ายังมีช่องว่างพอ แต่ย้ำว่าทุกคนจะต้องเริ่มที่มีใจรักไม่ใช่แค่อยากขุดทอง และต้องศึกษาพื้นที่จริงจัง เพราะเชียงใหม่ผสมผสานระหว่างความเป็นเมืองเก่ากับเมืองทันสมัย จะทำอย่างไรให้สอดคล้องกับการดำรงอยู่และเติบโตของเมือง สอดคล้องกับวิถีชีวิต พฤติกรรมของผู้บริโภคและคนในท้องถิ่น


คนที่จะมาลงทุนต้องคิดว่าทำอย่างไรที่จะอยู่อย่างสมดุล

 

กรรณิกา เพชรแก้ว  เรื่อง/รูป

ที่มา:http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1360312997&grpid=03&catid=&subcatid=

 

Go to top