ตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเป็นอีก 1 ซัมเมอร์สยองก็ว่าได้เพราะมีการย้ายทีมของนักฟุตบอลค่าตัวแพงกันอย่างอุตลุด ทีเดียว โดยเฉพาะแข้งชื่อดังหลายรายซึ่งเลือกที่จะหารังใหม่ บางคนก็ยังโชว์ฟอร์มไม่ค่อยเข้าตานักแต่ก็มีหลายรายที่เหมือนจะตอบแทนความ คุ้มค่าเงินจำนวนมหาศาลที่สโมสรควักจ่ายไปได้แล้ว
รายแรกคงหนีไม่พ้น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกชาวดัตช์ที่เก็บข้าวของออกจากถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไปอยู่กับอริอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยค่าตัวถึง 24 ล้านปอนด์ แม้ว่าจะมาจากทีมคู่แข่งแต่เชื่อว่าตอนนี้เจ้าตัวน่าจะเข้าไปนั่งอยู่ใน หัวใจแฟนบอล "ปีศาจแดง" ได้แล้วจากแฮตทริกในเกมกับเซาธ์แฮมป์ตัน และจุดโทษประตูชัยในเกมที่บุกไปเฉือนลิเวอร์พูล 2-1 (ขอขอบคุณ มาร์ค ฮัลซี่ย์ มาณ โอกาสนี้ด้วยครับ) แถมให้อีกสุดสวย 2 ประตูในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้วยฟอร์มแบบนี้ตอบคำถามได้ไม่ยากว่าทำไม เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถึงยอมจ่ายเงินจำนวนมากแลกกับนักเตะอายุ 29 ปี แถมเหลือสัญญาอีกปีเดียวต่างหาก
ส่วนเจ้ายุโรปทีมล่าสุดอย่าง เชลซี ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน โรมัน อบราโมวิช โชว์ให้เห็นว่ายังมีเงินในกระเป๋าอยู่เสมอ ทุ่มเงิน 32 ล้านปอนด์ปาดหน้า 2 ทีมเมืองแมนเชสเตอร์ สอย เอแด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียมมาจากลีลล์ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ "เสี่ยหมี" ต้องผิดหวังครับ สามารถปรับตัวเข้ากับทีมได้เป็นอย่างดี กล้าเล่นกล้าลากไม่หวงบอลอีกต่างหาก กลายเป็นตัวอันตรายในแนวรุกของทีมแถมยังทำให้ เฟร์นานโด ตอร์เรสกองหน้าอาภัพเริ่มกลับมาพังประตูได้อย่างต่อเนื่องอีกครั้ง เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย
สำหรับการเซ็นสัญญาในครั้งนี้ แฟนบอล "สิงโตน้ำเงินคราม" คงลุ้นฟุตบอลมันขึ้นอีกเยอะในปีนี้หลังจากฤดูกาลที่ผ่านมาเกมรุกของทีมดูจะ ฝืดๆ ไป
ไปที่อีกสโมสรจากลอนดอนอย่างอาร์เซน่อล กันบ้างครับ หลังจากที่ร้างราแชมป์มานาน ปีนี้สาวก "เดอะ กันเนอร์ส" เริ่มมีความหวังใหม่บ้างเนื่องจากทีมเล่นฟุตบอลกันได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าจะต้องเสียแกนหลักทั้ง ฟาน เพอร์ซี่ และ อเล็กซ์ ซง ไป
ซึ่งสาเหตุสำคัญทำให้ "ปืนใหญ่" กลับมาเล่นแบบมี "ทรง" อีกครั้งไป น่าจะเป็นเพราะการเข้ามาของ ซานติ กาซอร์ล่า เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติสเปน หนุ่มรักสันติค่าตัว 16 ล้านปอนด์รายนี้สามารถพล่านไปทั่วทั้งสนาม กลางบ้าง ซ้ายบ้างขวาบ้าง ทำให้เกมรุกของทีมมีมิติมากขึ้น และอาร์แซน เวนเกอร์ รวมไปถึงบรรดาแฟนๆ ทั้งหลายอาจจะสิ้นสุดการรอคอยแชมป์สักรายการโดยเฉพาะพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล นี้ก็เป็นได้
มาดูที่ยักษ์หลับอย่าง ลิเวอร์พูล กันบ้างสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องบอกว่าเหล่า "เดอะ ค็อป" คงแฮปปี้กันเป็นพิเศษ เพราะ "หงส์แดง" เก็บชัยชนะนัดแรกในพรีเมียร์ลีกได้สักทีด้วย สกอร์ท่วมท้น5-2 ซึ่งนอกจาก หลุยส์ ซัวเรซ ที่ระเบิดฟอร์มยิงแฮตทริกแล้ว อีกคนที่โชว์ฟอร์มได้เด่นไม่แพ้กันก็คือ นูริ ซาฮิน กองกลางที่เพิ่งย้ายจากเรอัล มาดริด มาด้วยสัญญายืมตัว
ตอนแรกอดีตมิดฟิลด์ดอร์ทมุนด์ดูเหมือนจะต้องพบกับความยากลำบาก กับการเล่นฟุตบอลในอังกฤษ หลังจากออกสตาร์ตได้ไม่เอาอ่าวในเกมแรกกับอาร์เซน่อล ก่อนที่เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วจะยิงคนเดียว 2 ประตูในบอลถ้วยและมาซัดอีกลูกกับนอริช เมื่อบวกกับลีลาการคุมเกมในแผงมิดฟิลด์ การจ่ายบอลเนียนทั้งสั้นและยาว ถือว่าซาฮินเริ่มจะเขยิบเข้าไปนั่งในใจของแฟนบอลได้แล้ว และหากโชว์ฟอร์มดีแบบนี้ค่ายืมตัวที่ลิเวอร์พูลจ่ายไป 5 ล้านปอนด์ คงเป็นจำนวนที่คุ้มน่าดู และอาจจะมีการเซ็นสัญญาถาวรเกิดขึ้นก็เป็นได้
ขณะที่ทีมกลางตารางอย่าง ซันเดอร์แลนด์ก็ตัดสินใจเซ็นเช็คมูลค่า 12 ล้านปอนด์ สอย สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ มาจากวูล์ฟแฮมป์ตัน และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนๆ "แบล็กแคตส์" ต้องผิดหวังเมื่อซัดไป 5 ประตู จาก 4 เกม ที่ลงเล่น ซึ่ง 5 ประตูดังกล่าวก็คือประตูที่ทีมทำได้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้นี่เอง ยิงอยู่คนเดียวจริงๆ แต่สถิติที่น่าทึ่งกว่าก็คือหัวหอกทีมชาติสกอตแลนด์รายนี้มีโอกาสได้ง้าง เท้าเพียง 8 ครั้งเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นกองหน้าที่ใช้โอกาสไม่เปลืองเลย และด้วยฟอร์มการเล่นของเฟล็ทเชอร์นี้เองที่ทำให้ทีม "แมวดำ" ยังคงไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีก (แต่หนักไปทางเสมอซะมากกว่า5 นัด เสมอไป 4 เกมด้วยกัน) ซึ่งหากนักเตะยังยิงได้ต่อเนื่องแบบนี้ปีนี้ซันเดอร์แลนด์คงจะสร้างความ ลำบากให้ทีมใหญ่หลายทีมได้พอสมควรเหมือนกัน
รายสุดท้ายขอข้ามช่องแคบอังกฤษไปที่ฝรั่งเศสหน่อย แน่นอนว่าสโมสรที่จะพูดถึงหนีไม่พ้นปารีส-แซงต์ แชร์กแมง (โคตร) พ่อบุญทุ่มรายใหม่ของวงการฟุตบอล โดย 1 ในนักเตะที่ทีมทุ่มเงินคว้าตัวมาร่วมทีมแล้วไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง นั่นก็คือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าน้องๆ ยักษ์ทีมชาติสวีเดนที่สอยมาจาก เอซี มิลาน ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบแทนสโมสรอย่างสาสมด้วยการยิงประตูเป็นกอบเป็นกำนำเป็นดาว ซัลโวลีก เอิง อยู่ ณ ตอนนี้ จุดเด่นของ "อิบรา" นอกจากการใช้ร่างกายให้เกิดประโยชน์แล้วเทคนิคของเจ้าตัวก็อยู่ในขั้น "ข้อเท้าเทพ" อีกต่างหาก แถมจังหวะการยิงประตูก็ยังเฉียบขาด และที่ไม่พูดไม่ได้คือทีมที่ได้เขาไปอยู่ด้วยมักจะคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ใน ปีนั้นเลยอีกด้วย
และนี่คือ 6 นักเตะที่สามารถสร้างความแตกต่างกับสโมสรใหม่ได้ทันที แต่นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นต้องรอดูกันยาวๆ ครับ ว่าแต่ละคนจะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นไปได้จนจบฤดูกาลและพาทีมของตัวเองคว้า แชมป์ได้หรือเปล่า .....ดูบอลให้สนุกครับ