ถือเป็นโอกาสดีที่ได้พบและพูดคุยกับศิลปินเพื่อชีวิตระดับตำนานอีกคนของ เมืองไทย สำหรับ "ปู" พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่หลายคนชื่นชอบ และเห็นเขาคนนี้เป็นขวัญใจ วันนี้เขากลับมามีงานเพลงใหม่สดอัลบั้มเต็มอีกครั้งในรอบเกือบ 2 ปี ในชื่ออัลบั้มว่า "25 ปี (มีหวัง)” และปีนี้ถือเป็นฤกษ์ดี เพราะเป็นปีที่ศิลปินเพื่อชีวิตคนนี้ยืนหยัดอยู่กับวงการเพลงมาครบ 25 ปี ปีนี้คงเป็นอีกปีที่แฟนเพลงของ "ปู" พงษ์สิทธิ์ มีความสุข เพราะไม่ใช่แค่งานเพลงอัลบั้มใหม่ ที่ถ่ายทอดจากมุมมองความคิดของเขาออกมาเป็นบทเพลงเท่านั้น แต่ปีนี้เขากำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่เพื่อฉลอง 25 ปีกับคอนเสิร์ตสิงห์ คอร์เปอเรชั่น "เปิดหัวใจเพื่อชีวิต 25 ปี คำภีร์ มิวสิก เฟสติวัล” ซึ่งจะจัดขึ้นในเสาร์ที่ 15 ธันวาคมนี้ ณ ลานแอ็คทีฟ สแควร์ ด้านหน้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี
เริ่มพูดคุยในเรื่องของอัลบั้มเพลงก่อนเลย เพราะหายไปนานกว่า 2 ปี "ปู" พงษ์สิทธิ์ เล่าถึงความคิดแรก ที่ทำอัลบั้มนี้ มาจากการที่เขามองบ้านเมืองในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา แล้วเขารู้สึกว่า มันเป็นหน้าที่เขาที่จะต้องเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ผ่านบทเพลง เพื่อให้คนรุ่นลูกรุ่นหลาน ได้รู้ว่าช่วงเวลานี้เกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองของเราบ้าง
"เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา มีเยอะมาก แต่เป็นเรื่องราวซ้ำๆ ซากๆ เราพยายามมองเรื่องเดียวกัน กับที่คนหลายคนหรือคนทุกคนมอง แต่เรามองไปอีกด้านหนึ่ง อย่างเช่นเรามองความขัดแย้งทางความคิดต่างจากที่พี่เรามอง เราก็บันทึกออกมา เป็นเรื่องเดียวกับที่พี่เราบันทึก แต่เรามองมันอีกด้านหนึ่ง" ปูเริ่มเล่า (คำว่า "พี่" ที่ "ปู" พงษ์สิทธิ์ หมายถึงศิลปินเพื่อชีวิตรุ่นพี่ของเขา)
ศิลปินชื่อดัง ยังพูดถึงคำจำกัดความคำว่า "มีหวัง" ที่เป็นชื่ออัลบั้มว่า มาจากการเดินทางของเขา ที่เขาได้มีโอกาสเดินทางมาก ทำให้เขาได้เปรียบกว่าคนอื่น เขาได้เจอคนมากมายตามสถานที่ต่างๆ ตัวเขามองบ้านเมืองแล้วทุกข์ใจ แต่เมื่อเขามองตาคนรุ่นใหม่ที่มาดูเขาตามคอนเสิร์ตเขาเห็นถึงความหวัง คนรุ่นใหม่เหล่านี้พวกเขาจะโตขึ้น ส่วนคนที่วุ่นวายอยู่ในตอนนี้ก็จะหายไปตามวัฏจักร
"เพลงแรกที่อัดเลย คือเพลง "นครลิง" เพลงนี้อัดไว้นานแล้ว ในตอนนั้นอยากที่จะพูดเรื่องบ้านเมือง แต่ด้วยนิสัยเป็นคนไม่ชอบพูด เลยเลือกที่จะบันทึกเพลง โดยบอกความคิดเราผ่านบทเพลง จริงๆ ในอัลบั้มนี้ ไม่ได้มีแต่แค่เพลงในทำนอง "มีหวัง" แต่ยังมีเพลงที่ "ไม่มีหวัง" ด้วย ซึ่งออกแนวประชดประชันกับปัญหาที่เราจัดการไม่ได้" ศิลปินชื่อดัง กล่าว
เมื่อถามถึงชีวิต 25 ปี ที่อยู่ในวงการเพลงเพื่อชีวิตมา "ปู" เล่าให้ฟังว่า วงการเพลงเพื่อชีวิตแบ่งออกเป็น 3 ยุค ยุคแรกคือยุคคนเดือนตุลา เพลงเพื่อชีวิตถูกตั้งขึ้นมาโดยพวกเขาอยู่แล้ว เพลงถูกสร้างมาเพื่ออุดมการณ์ของพวกเขา ในยุคนั้นเพลงเพื่อชีวิตบริสุทธิ์จริง ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อการพาณิชย์ ยุคสองเป็นยุคที่เพลงเพื่อชีวิตเฟื่องฟูมาก แต่ทุกอย่างโดนจัดการโดยทุน มายุคที่สามคือยุคปัจจุบัน สำหรับตัวเขาแล้ว ถ้าจะเรียกว่าเพลงเพื่อชีวิตไม่มีก็ได้
"มันไม่มีเพลงเพื่อชีวิตอีกแล้ว จะบอกอย่างนั้นก็ได้ ผมเองไม่ได้คิดว่าเพลงเพื่อชีวิตเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไร ถ้าจะบอกว่ามาถึงยุคของผม เพลงเพื่อชีวิตได้หมดไปแล้ว ซึ่งหมดไปแล้วก็ไม่เห็นเป็นไร แต่ว่าเพลงอะไรก็แล้วแต่ที่รับใช้ให้ประชาชนมีความสุข ให้เกิดประโยชน์ อย่างเพลงของผมบอกเล่าเรื่องราวสังคมในยุคต่างๆ มันเกิดประโยชน์ มันจะถูกเรียกว่าเป็นเพลงอะไรก็ได้" พงษ์สิทธิ์ กล่าว
ในตอนท้าย "ปู" พงษ์สิทธิ์ บอกความในใจให้ฟังว่าสำหรับเขาแล้วดนตรีคือชีวิต เขาหยุดเล่นมันไม่ได้ หยุดพักแค่สองวัน ก็ทนไม่ไหวแล้ว ชีวิตเขานอกจากครอบครัว สิ่งที่รักรองลงมาก็คือดนตรี เขาไม่เคยคิดว่าจะหยุดเล่น หรือจะวางมือเมื่อไหร่ เขาอาจจะเล่นดนตรี ทัวร์คอนเสิร์ตไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแรง