ย้อน รอย 8 ปี สึนามิ โศกนาฎกรรมของโลกครั้งใหญ่ จากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ เวลาผ่านไป 8 ปี ความโศกเศร้า เสียใจยังไม่เลือนหายไปจากครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่พลัดพรากจากคนอันเป็นที่รัก
โดย ใน จ.กระบี่ ได้มีการจัดรำลึก ที่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ในปี 2547 จำนวนกว่า 700 คน โดยจะมีพิธีการทางศาสนา ทั้ง 3 ศาสนา คือ พุทธ คริสต์ อิสลาม เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ จะมีการจัดพวงมาลาโลหะ นำไปวางไว้ที่อนุสาวรีย์ใต้น้ำ เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตด้วย
รวม ทั้งพื้นที่อีกหลายแห่งใน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จะมีญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมดมารวมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับไป แล้ว ที่วัดราษฎร์นิรมิต ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ที่เก็บอัฐิของชาวไทยและชาวต่างชาติ ดังเช่นทุกปีที่ถือปฏิบัติกันมา
แต่แม้ว่าหลังจากที่เกิดภัยพิบัติ สึนามิ จะ มีการตื่นตัวในเรื่องการสร้างหอเตือนภัย สถานที่หลบภัยสึนามิ ในหลายจุด ไม่ได้รับการดูแล ถูกปล่อยอยู่ในสภาพที่สกปรก ไม่ได้ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ยัง มีอนุสรณ์เรือยักษ์สีฟ้า และเรือสีส้ม ซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านน้ำเค็ม ถูกปล่อยทิ้งไม่มีการดูแลรักษา ทำให้มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ทั้งที่ทางราชการ ทุ่มงบประมาณ ซื้อที่ดินและเรือทั้งสองลำมาทำเป็นอนุสรณ์รำลึกเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ จำนวนหลายล้านบาท
{youtube}53wk5oRgboU{/youtube}
หากย้อนเหตุการณ์วันนี้ เมื่อปี 2547 เช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เวลา 07:58:50 น.(ตาม เวลาประเทศไทย) เป็นเช้าที่อากาศสดใสทะเลสงบ ชายหาดเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยเทศจำนวนมาก ที่พักผ่อนหลังเฉลิมฉลองในค่ำคืนของวันคริสต์มาส นักท่องเที่ยวที่กำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนานในทะเลเรียบสงบ พื้นที่จังหวัดชายฝั่ง อันดามันของไทย ทั้ง จ.ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล ใครจะคิดว่าจะเกิดคลื่นยักษ์ถาโถมซัดเอาร่างนักท่องเที่ยว ผู้คนจนต้องพลัดหลงกันไปคนละทิศละทาง
เริ่มต้นจากแผ่นดินไหวในทะเลเหนือเกาะสุมาตราขนาด 9.0 ริกเตอร์ มี ศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณนอกฝั่งด้านตะวันตกทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ลึกลงไปในแผ่นดินประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งแรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ถึง จ.ภูเก็ต และในอีกหลายจังหวัดชายฝั่งอันดามันของไทย
มี บางคนสังเกตได้ว่า น้ำทะเลเริ่มลดผิดปกติ ปลาและสัตว์เกยตื้น ตายริมชายหาด จนกระทั่งไม่กี่ชั่วโมง คลื่นยักษ์เริ่มก่อตัวให้เห็น คลื่นสึนามิเคลื่อนตัวเข้าสู่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือสุดของเกาะสุมาตรา ในจังหวัดอาเจะห์ ความสูงราว 30 เมตร มีผู้เสียชีวิตรวมกันทั้งหมดมากกว่า 130,000 คน
{youtube}AcoDQ9fRvAQ{/youtube}
นักท่องเที่ยวในฝั่งประเทศไทย บางราย คิดว่าเป็นคลื่นขนาดใหญ่ธรรมดา นำกล้องวีดิโอมาบันทึกภาพเหตุการณ์ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ เวลาประมาณ 10.00 น.คลื่นยักษ์ได้พัดเข้าถล่มบริเวณชายฝั่งตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย รวมถึงพื้นที่ทางภาคใต้ของไทย สร้าง ความตื่นตกใจแก่นักท่องเที่ยว ต้องวิ่งหนีขึ้นชายฝั่ง เด็กเล็กที่เล่นอยู่ริมชายหาดเริ่มจมน้ำ ไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ ขณะที่บางส่วนเกาะต้นไม้เป็นที่ยึด บ้างวิ่งหนีขึ้นที่พัก แต่ระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ พัดเอาร่างนักท่องเที่ยวหายไปต่อหน้าต่อตา พลัดหลงกันไปคนละทิศละทางก่อนทุกอย่างคลี่คลาย
มีผู้เสียชีวิตที่เกาะปีนังในประเทศมาเลเซียประมาณ 70 คน และใน 6 จังหวัดภาคใต้ของไทย คือ จังหวัดสตูล ตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต และระนอง รวมกันประมาณ 5,400 คน บาดเจ็บกว่า 8,000 คน และสูญหายอีกไม่น้อย
นอก จากนี้คลื่นยักษ์ดังกล่าวยังได้สร้างความเสียหายในวงกว้างทั้ง พม่า และบังกลาเทศ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวประมาณ 1500 – 1700 กิโลเมตร และเคลื่อนตัวมุ่งไปทางตะวันตก เข้าถล่มดินแดนของประเทศอินเดีย รวมทั้งบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศศรีลังกา
คลื่น สึนามิ ส่วนหนึ่งยังเคลื่อนตัวต่อไปจนถึงชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดกำเนิดแผ่นดินไหวประมาณ 5500 กิโลเมตร ทำความเสียหายให้แก่โซมาเลียและเคนยา
ประมาณ การว่ามีผู้เสียชีวิตใน 14 ประเทศมากกว่า 230,000 คน นับเป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ประเทศที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย รองลงมาคือประเทศศรีลังกา อินเดีย และประเทศไทย
ภาพถ่ายจากดาวเทียม ก่อนและหลัง ที่ เขาหลัก จ.พังงา ภาพจาก.photoontour9.com
คำ ว่าสึนามิเป็นที่สนใจขึ้นมาทันที โดยคลื่นยักษ์สึนามิ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่มีลักษณะเป็นระลอกคลื่น เกิดขึ้นจากการที่น้ำในทะเลสาบหรือในท้องมหาสมุทรจำนวนมหาศาล เกิดการเคลื่อนย้ายถ่ายเทจากบริเวณหนึ่งสู่อีกบริเวณหนึ่งอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากการเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินเคลื่อนตัว ภูเขาไฟระเบิด หรือจากวัตถุนอกโลก ก่อตัวเป็นคลื่นยักษ์ถามโถมซัดเข้าชายฝั่ง โดยจะมี สัญญาณเตือนอย่างเช่น แผ่นดินไหว น้ำทะเลลดกระทันหัน หรือมีสัตว์น้ำตายปริศนา เมื่อไม่มีการเตือนภัย ก็ทำให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล
ความ ทรงจำอันเลวร้ายของผู้ประสบภัยและญาติของผู้เสียชีวิต ก็คงยังไม่ได้เลือนลางไปตามกาลเวลา จะมีก็แต่การเยียวยาทางจิตใจและการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากลำบาก จากภาครัฐและคนไทยด้วยกัน และถือเป็นบทเรียนให้เรียนรู้ถึงภัยธรรมชาติ และเป็นสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องต้องเร่งหาทางป้องกันและเตือนภัย เพราะถึงแม้มนุษย์เราจะห้ามการเกิดของภัยธรรมชาติไม่ได้ แต่ก็ควรที่จะต้องหาทางลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด
ขอไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้
{youtube}nsLz0h4UKQ4{/youtubej}
{youtube}3ntLA0lJUbY{/youtube}
ที่มา:
http://board.postjung.com/648909.html#