คดีปริศนา คนไฟลุก นี้ เป็นเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว แต่จนปัจจุบันก็ยังหาข้อสรุปของคดีไม่ได้ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยได้อ่านก็ลองอ่านดูนะครับ เป็นคดีแปลกๆ ดี แต่เชื่อว่าถ้าเหตุการณ์เหล่้านั้นเกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ การพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์คงไขข้อข้องใจได้ไม่ยากนัก...mata
Spontaneous human combustion หรือเรียกสั้นว่า SHC เป็นชื่อที่ใช้เรียกเหตุการณ์ที่ร่างกายมนุษย์เกิดการลุกไหม้ ขึ้นเองโดยปราศจากแหล่งความร้อนภายนอก ตลอดระยะเวลา 300 กว่าปีที่ผ่านมานี้มีเหตุการณ์ SHC เกิดขึ้นแล้วกว่า 200 เคส
สิ่งที่เหลือไว้เป็น ปริศนา SHC
- ร่างกายของผู้เคราะห์ร้าย จะเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นเอง (แต่จากการชันสูตร ของเคสที่เกิดในปัจจุบัน ไม่มีเคสใดที่อยู่ๆ ร่างกายมนุษย์จะติดไฟขึ้นเอง ทำให้เข้าใจว่า ในสมัยก่อนอาจจะเกิดจาก การชันสูตรที่ไม่ถี่ถ้วน ละเอียดรอบคอบ)
- เหตุการณ์มักจะเกิดขึ้นภายในที่พัก ของผู้เคราะห์ร้ายเอง
- โดยมาก ร่างกายและศีรษะจะเกิดเพลิงลุกไหม้เสียหายอย่างรุนแรง แต่ แขน ขา เฟอร์นิเจอร์ และสภาพภายในห้อง โดยมากจะแทบจะไม่ได้รับความเสียหายเลย
- ในบางกรณีมีการบันทึกในรายงานการสืบสวนว่า ภายหลังจากการเข้าชันสูตร มีรายงานว่าภายในห้องจะพบกลิ่น แปลกๆที่มีลักษณะ หอมหวาน
- บ้างมีการพบคราบน้ำมัน บนเฟอร์นิเจอร์ บนผนัง
- ในกรณีที่หายากยิ่งพบว่า ถึงแม้ร่างกายศพจะถูกเพลิงเผาไหม้เป็นจุล แต่อวัยวะภายใน แทบจะไม่ได้รับความเสียหายเลย
สมมุติฐาน ที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ SHC
มี สมมุติฐาน จำนวนมากที่กล่าวถึงการเกิด SHC แต่มันก็ยังมีข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้สมมุติฐานนั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน
- สมมุติฐาน ก๊าซมีเทน (เป็นก๊าซที่เกิดจากการย่อยสลาย ของ สารอินทรีย์) ในลำไส้ เกิดการลุกติดไฟโดย เอ็นไซค์(Enzymes) แต่จากสภาพศพ ก็มีข้อขัดแย้ง กับสมมุติฐานนี้่ คือศพเกือบทั้งหมดจะมีลักษณะเกิดเพลิงลุกไหม้จากภายนอก เข้าไปด้านใน มิใช่การลุกไหม้จากอวัยวะในร่างกายออกมาด้านนอก ตามสมมุติฐาน
- สมมุติฐาน ขี้เมา สิงฆ์อมควัน เมื่อดื่มสุราอย่างหนัก แล้วสูบบุหรี่ แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่า ปริมาณเอธิลอัลกอฮอล์(Ethanol)ในเลือดต้องมากถึง 23% ถึงจะทำให้มนุษย์เกิดเพลิงลุกติดไฟได้ แต่ในความเป็นจริงเพียงแค่มีปริมาณเอธิลอัลกอฮอล์ในเส้นเลือด มากกว่า 0.40% ก็มีผลทำให้มนุษย์เสียชีวิต จากพิษแอลกอฮอล์แล้ว
- สมมุติฐาน ไฟฟ้าสถิต จากเสื้อผ้าที่สวมใส่เสียดสีกัน แล้วเดินผ่านพรม นอนลงที่ผ้าปูที่นอน นั่งบนโซฟาทำให้เกิดการประกายไฟขึ้น แต่ก็มีข้อใต้แย้งว่า ประกายไฟจากสมมุติฐานนี้น้อยกว่า 1 จูล แต่ประกายไฟจากไฟฟ้าสถิตที่มากพอจะให้เสื้อผ้าลุกไหม้ต้องมากถึงหลายพันโวลต์
หากสมมุติฐานเหล่านี้ ไม่ใช่สาเหตุ แล้วอะไรที่ทำให้เกิด SHC
หากมันไม่ใช่การลุกไหม้ขึ้นเอง แล้วอะไรที่สามารถอธิบายสภาพศพ ต่างๆที่เกิดขึ้น มีนักวิทยาศาสตร์ที่อธิบายด้วย ผลแบบไส้เทียนไข (Wick effect)
- เมื่อผู้เคราะห์ร้ายเกิดหมดสติ จากการ ดื่มสุรา กินยานอนหลับ ขาดออกซิเจน หรือสาเหตุอื่นใดก็ตาม
- โดยก่อนหมดสติ ผู้เคราะห์ร้ายกำลังทำกิจกรรม อะไรบางอย่างเช่น สูบบุหรี่ ทำครัว รีดผ้า อยู่ใกล้เตาผิง หรือ แหล่งความร้อนอื่นๆ
- สมมุติฐานนี้ เปรียบร่างกายของผู้เคราะห์ร้าย เหมือนเทียนไข
- เมื่อไขมันในร่างกายมนุษย์เปรียบเสมือนไขเทียน (น้ำตาเทียน)
- เมื่อเสื้อผ้า และเส้นผมเปรียบเสมือนไส้เทียน
- เมื่อ ไขมันไหลซึม ละลายออกมาเนื่องจากความร้อนที่ลุกไหม้เสื้อผ้า ไขมันเหล่านี้จะไหลซึมเข้าสู่เสื้อผ้า เกิดการลุกไหม้อย่างช้า ไปเรื่อยตราบนานเท่านาน เท่าที่ยังมีไขมันไหลออกมาเติม (คล้ายการลุกไหม้ของเทียนไข)
- ด้วยโมเดลนี้ร่างกายสามารถไหม้อย่างช้าจนเป็นเถ้าถ่าน โดยที่แขน ขา ที่ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุม ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก
ช่วงแรก เมื่อผู้เคราะห์ร้ายเกิดหมดสติ แล้วเสื้อผ้าเกิดลุกติดไฟจาก บุหรี่ หรือ แหล่งความร้อนอื่นใดซักอย่าง
ช่วงที่สอง ความร้อนที่เกิดจากการลุกไหม้บนเสื้อผ้า ได้ละลายไขมันภายในร่างกายออกมา และเสื้อผ้าก็จะดูดไขมันเหล่านั้นไว้ แล้วค่อยๆลุกไหม้ไปอย่างช้า (ปรากฏการณ์นี้เหมือนเทียนไข)
ช่วงที่สาม ความร้อนจากการเผาไหม้เป็นระยะเวลานาน จนทำให้ร่างกายไหม้เป็นเถ้าถ่าน ไขมันบางส่วนจะไหล และละเหยติดตามพื้นที่ต่างเป็นคราบน้ำมัน ส่วนที่ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุม จะไม่ได้รับความเสียหาย
เคส นี้ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงที่เป็นโรคพาร์คินสัน(Parkinson's Disease) จะเห็นว่าร่างกายส่วนบนหายไป แต่ในความเป็นจริง ร่างกายส่วนบนนั้นถูกเคลื่อนย้ายไปก่อนถ่ายรูป แต่ร่างกายส่วนบนเกิดการลุกไหม้ และเป็นธรรมชาติที่ไฟจะลุกไหม้ขึ้นด้านบน
ศพของผู้เคราะห์ร้ายที่เกิดล้มลงไปในเตาผิงเนื่องจากโรคหัวใจ ที่ Gresham ในปี 1977
คดี SHC ที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 1982 โดยผู้เสียชีวิตชื่อว่า Jeannie Saffin อายุ 61 ปี ร่างกายส่วนบนลุกไหม้เป็นเถ้าบนเก้าอี้ไม้ ที่ห้องครัว ในบ้านของเธอเอง ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
แหล่งที่มา
http://science.howstuffworks.com/shc.htm
http://autumnforestghosthunter.blogspot.com/2009/11/up-in-smoke-spontaneous-human.html
http://listverse.com/2008/02/13/yet-another-10-unsolved-mysteries/
http://und3rw0rld.wordpress.com/2009/08/13/10-keanehan-dunia-yang-belum-terungkap/