แพทย์แผนไทย โคราช รักษาโรค SLE ไขความลับวิธีรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง ( SLE)
รถตู้ให้เช่า ร้อยเอ็ด
หมอเอ ณัฐปราชญ์ คลินิก

korat_finance

 หากไม่ประสบด้วยตนเอง หลายๆ คนคงจะแปลกใจเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางวิทยาการความรู้ในยุคใหม่ว่าการเรียน และองค์ความรู้บางด้านที่ภาครัฐและมหาวิทยาลัยต่างก็ให้การสนับสนุนเพื่อการ พัฒนาศักยภาพของอาจารย์โดยการส่งเสริมให้บุคลากรไปศึกษาต่อเพื่อที่จะปรับ ความรู้ความสามารถของตนเอง และหน่วยงานมักจะให้เหตุผลกับการไปเรียนต่อต่างประเทศว่า “ที่นั่นคือศูนย์กลางอารยธรรมและการเพิ่มพูนความรู้” อย่างเช่น ในกรณีที่คนไทยนิยมไปเรียนในกลุ่มของประเทศแองโกลแซกซอน แต่นั่นอาจจะผิดพลาดหากเลือกเรียนไมโครไฟแนนซ์ เนื่องจากจะว่าไปแล้ววิชาการด้านนี้เกิดขึ้นมาจากแนวปฏิบัติของคนรากหญ้า หรือคนหาเช้ากินค่ำ ประกอบกับความรู้ด้านนี้เกิดจากการพัฒนางานด้านประสบการณ์และการแก้ไขปัญหา หน้างานเป็นหลัก อย่างเช่น งานด้านการกำหนดกติกาความเป็นสถาบันที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมชีวิตประจำวันของ การหาเช้ากินค่ำ การกำหนดข้อผูกพันและความรับผิดชอบต่อสิทธิและหน้าที่ด้วยกัน ซึ่งตรงนี้ต้องค้นหาสูตรหรือความลับเชิงพาณิชย์ของตนเองขึ้นเพื่อทำให้ กิจกรรมด้านไมโครไฟแนนซ์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

ไมโครไฟแนนซ์ของสหกรณ์เคหสถานแห่งเมืองโคราชซึ่งต้องยอมรับว่าเขาเป็นเทพ ด้านนี้จริงๆ เนื่องมาจากว่าเป็นแนวคิดที่เขาสามารถระดมเงินออมวันละ 40 บาท เพื่อตอบคำถามในเรื่องของการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยแก่คนที่หาเช้ากินค่ำให้มี โอกาสและอนาคตของตนเองในสังคมโดยสามารถระดมเงินทุนด้วยกัน จนสามารถสร้างเคหสถานให้แก่ผู้คน และที่น่าทึ่งคือเขาเข้าไปรับผิดชอบในด้านของการแก้ไขปัญหาโลกร้อนโดยตรง อย่างเช่น การนำเอาแนวคิดของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้า การใช้น้ำแบบประหยัดร่วมกันและการบำบัดมลภาวะเพื่อสุขอนามัยและอื่นๆ อีกมากที่ไม่สามารถพรรณนาได้ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือแนวคิดของ ประธานประวิง รอดทะเล คนที่จบระดับ ป.6 ซึ่งไม่ได้เรียนที่มหาวิทยาลัยในอังกฤษ แต่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านแนวคิดและปฏิบัติ เหตุผลก็คือเขายึดสมาชิกคือทุนลูกค้าที่สำคัญ เพราะที่นี่มีการตรวจสอบภายใน ควบคุมระบบภายในองค์กรซึ่งเป็นเรื่องที่ใหม่มากว่าความน่าเชื่อถือนั้นต้อง มาจากการตรวจสอบไม่ใช่มาจากความหมายว่าเป็นคนดีอย่างที่เราเข้าใจกัน

การผสมผสานความรู้เชิงปฏิบัติบวกกับความคิดองค์กรยุคใหม่ช่วยให้สหกรณ์นี้ เป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้หน้างาน การบันทึกและออกแบบสินค้าจนเป็นทรัพย์สินทางปัญญาในองค์กร การทำบัญชีทรัพย์สินทางปัญญาและการวิเคราะห์จัดการโครงการประกันความเสี่ยง ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตนเองได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในการ แข่งขันทุกวัน ปัจจุบันที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงความรู้และประสบการณ์ การให้การศึกษาคอร์สระยะสั้นด้านไมโครไฟแนนซ์ ตั้งแต่ ก-ฮ ซึ่งสามารถเอาไปปฏิบัติการได้โดยไม่ต้องเรียนหลักสูตร 5 ปีอย่างที่อาจารย์ในมหาวิทยาลัยเรียนกัน ซึ่งนอกจากจะเป็นการทุ่มเททางด้านเวลาที่มีผลตอบแทนต่ำแล้ว ยังไม่สามารถที่จะนำเอามาปฏิบัติในสังคมได้ เนื่องจากขาดการศึกษาด้านสไตล์ความคิดและความผูกพันในความเป็นสถาบันของคน รากหญ้า

การลงทุนการศึกษาแบบขาดการสำรวจพรมแดนทางความรู้ในด้านนี้เมื่อทำไปอาจจะส่ง ผลให้บุคลากรเอ๋อและป่วยไข้ได้ ซึ่งก็จะเป็นภาระทางสังคมต่อไป โดยเฉพาะกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่เป็นสถานซึ่งขาดการตรวจสอบภายใน และก็คงจะเป็นเรื่องของปริญญาแบบประชานิยมต่อไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

แลกคนละหมัด โดยชินสัคค สุวรรณอัจฉริย This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

ที่มา:http://www.komchadluek.net/detail/20130219/152174/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A.html#.USL_vvKBswA

 

Go to top