แม้ว่าจะไม่เป็นที่รู้กันในวงกว้าง หากที่ โฮจิมินห์ หรือในชื่อเดิม ไซ่ง่อน โลกของดนตรีใต้ดินก็เติบโตอยู่
โตอย่างเงียบเชียบ ไร้คนสนใจ
โดยในเว็บไซต์ vietnamnet.vn ได้เขียนถึงวัฒนธรรมดนตรีใต้ดินในเมืองหลวงแห่งนี้ไว้อย่างน่าสนใจ ว่าที่
โฮ จิมินห์นั้นดนตรีหลายประเภทเริ่มพัฒนาขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1997 (พ.ศ. 2540) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงร็อก ที่มีวงดนตรีร็อกเกิดขึ้นมากมาย
ในช่วงนั้นความมีอคติต่อดนตรีร็อกมีไม่มากนัก ทาง Ho Chi Minh City Youth Cultural House จึงจัดตั้ง Rock Fan Club (RFC) ขึ้นให้เป็นชมรมเพื่อดนตรีร็อกโดยเฉพาะ หากเพียงไม่ถึง 5 ปีก็ต้องถูกยุบไป
อย่าง ไรก็ตาม เมล็ดพันธุ์ของดนตรีร็อกที่ถูกหว่านไว้ในวันเวลาเหล่านั้นไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ถูกเก็บไว้ในโลกใต้ดินและเติบโตขึ้นอย่างงดงามในโลกใบนั้น โดยมีบาร์อย่างร้าน Yoko, Acoustic, และ RFC เป็นตัวช่วยสนับสนุน
ใน กลุ่มคนที่รู้กันดีจะเรียกทั้ง 3 ร้านนี้ว่า สามเหลี่ยมแห่งวัฒนธรรมใต้ดินของไซ่ง่อน เพราะนอกจากร้านเหล่านี้จะตั้งอยู่ติดๆ กันแล้ว ยังเป็นร้านที่วงดนตรีใต้ดินสามารถเปิดการแสดงได้อย่างเต็มที่
อย่าง ร้าน Yoko แม้จะเปลี่ยนมือเจ้าของมาหลายครั้ง แต่ก็ยังมีลูกค้าจำนวนมากมา เพราะหวังจะได้ฟังเพลงที่ต่างจากที่อื่นๆ ทั่วไป ด้วยมีให้ฟังไม่ว่าจะเป็นร็อก,บลูส์ และอินดี้อื่นๆ ที่ขับร้องโดยศิลปินใต้ดินมากฝีมือที่ไม่ค่อยได้ออกสื่อ
ในขณะที่ร้าน RFC Coffee Shop ยังคงเปิดทุกคืนเพื่อต้อนรับผู้มาเยือนที่เดินทางมาเพื่อดื่มด่ำกับดนตรีที่ ไม่ได้ฟังในบาร์อื่นในเมือง ซึ่งแสดงโดยวงร็อกชั้นนำของไซ่ง่อน
ที่เป็นที่รู้จักก็อย่างวง Sagometal ที่อยู่คู่วัฒนธรรมดนตรีใต้ดินของไซ่ง่อนมาแล้วถึง 15 ปี วงนี้มีสมาชิกที่หลากหลาย ทั้งครู, นักเรียน หรือแม้แต่พนักงานขายของ รวมถึงวง Microwave หนึ่งในวงร็อกใต้ดินที่ก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จในดนตรีกระแสหลัก โดยตอนนี้พวกเขาถือเป็นวงดนตรีร็อกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเวียดนามวง หนึ่ง
แต่ใช่ว่าจะทุกวงที่จะก้าวขึ้นมาผงาดได้เช่นนั้น
เพราะอย่างวง Quai Vat Ti Hon หรือในอีกชื่อหนึ่ง Tiny Monsters ก็มีเส้นทางเดินที่ต่างออกไป ด้วยแม้อัลบั้ม Duong Ve ที่พวกเขาออกในช่วงปลายปี 2554 จะได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่บวก ทั้งยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Cong Hien (Devotion) Music Awards รวมถึงยังถูกหลายคนจับตามองว่าโอกาสก้าวเข้าสู่ดนตรีกระแสหลักของพวกเขาอยู่ เพียงเอื้อมมือ แต่ในความเป็นจริงสิ่งนั้นก็ยังไม่เกิดขึ้น
Quang Minh มือกลองของวงและเจ้าของ Acoustic Bar สถานที่โปรดของคนรักดนตรีใต้ดินบอกว่า
ดนตรี ใต้ดินมีกลุ่มแฟนเป็นของตัวเองอยู่แล้ว วัฒนธรรมใต้ดินมีอยู่ในทุกๆ ที่ แต่จิตวิญญาณของมันต่างกันไปขึ้นอยู่กับสังคมและผู้คนในสถานที่นั้น
และในมุมมองของเขา ดนตรีใต้ดินมีพลังการดึงดูดพิเศษแตกต่างจากดนตรีอย่างอื่น
เมื่อใครสักคนเริ่มรักโลกใบนี้ พวกเขาจะรักมัน และอยู่กับมันต่อไปอีกนาน
ขณะที่ Nguyen Cong Hai นักร้องนำของวงพูดถึงธรรมชาติของวัฒนธรรมใต้ดินว่ามันคือ ความโดดเดี่ยว
ผมไม่เคยได้เงินจากการเล่นดนตรีของผมเลยแม้แต่น้อย ชีวิตของผมตอนนี้ถือว่าค่อนข้างยากจนทีเดียวล่ะ
และถึงแม้เขาจะได้รับการยอมรับในฐานะนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ที่หลายคนชื่นชอบ แต่เขาก็ยังคงรู้สึกแปลกแยกและโดดเดี่ยวอยู่ดี
แต่ถึงคนในวงการใต้ดินจะต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวขนาดไหน วัฒนธรรมดนตรีใต้ดินของไซ่ง่อนก็ยังคงเติบโตอยู่ได้อย่างมีสีสัน
หน้า 24,มติชนรายวัน ฉบับวันพุธที่ 6 มีนาคม 2556