บริษัท ชาร์เตอร์ อาร์มส์ (Charter Arms Co.) ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1964 จัดอยู่ในกลุ่มหน้าใหม่ของวงการปืนสหรัฐ ปืนที่ผลิตขายทำรายได้หลักคือลูกโม่โครงเล็ก เน้นพกพาสะดวก โดยมีจุดเด่นที่อาจกล่าวได้ว่าเหนือกว่าลูกโม่ขายดีของยุคนั้น คือโคลท์ กับ สมิธฯ
ผู้ก่อตั้ง ชาร์เตอร์ อาร์มส์ คือ ดักลาส แม็คเคลนนาฮาน (Douglas McClenahan) ที่ผ่านงานในโรงงานปืนของ โคลท์, ไฮ-สแตนดาร์ด และ รูเกอร์ ก่อนออกมาตั้งบริษัทของตัวเอง โดยมีความเชื่อว่า สามารถออกแบบปืนให้เล็กกว่าแต่แข็งแรงกว่าสองเจ้าใหญ่ดังกล่าว โดยแนวความคิดที่จะทำโครงปืนแบบปิดทึบทั้งสองข้าง สอดใส่ชิ้นส่วนการทำงานจากด้านล่าง โดยมีชิ้นส่วนการทำงาน คือชุดลั่นไก ง้างนก หมุนโม่ น้อยกว่าทั้งโคลท์และสมิธฯ โดยมีระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่าด้วย
อ่านถึงบรรทัดนี้ ท่านที่คุ้นเคยกับปืนลูกโม่อเมริกันอาจจะฉุกคิดว่า ที่บรรยายมานั้นมันคือ รูเกอร์ ชัด ๆ ที่ใช้โครงทึบไม่เปิดด้านข้าง และชิ้นส่วนที่น้อยลง ขายความแข็งแรงของตัวปืน มีความเป็นไปได้ว่า ดักลาส มีส่วนร่วมในทีมงานออกแบบปืนของรูเกอร์ช่วงที่เคยทำงานอยู่ด้วย แต่รูเกอร์มาเริ่มขายปืนลูกโม่แบบดับเบิลแอ๊คชั่นหกนัดรุ่นแรก คือ ซีเคียวริตี ซิก (Security Six) ในปี ค.ศ. 1972 หลังชาร์เตอร์ถึง 8 ปี และกว่าที่รูเกอร์จะผลิตรุ่นโครงเล็ก โม่ห้านัด คือ SP 101 ก็ล่วงไปถึงปี ค.ศ.1989 โดยรูเกอร์รุ่นนี้ ไม่ขายความเล็กหรือเบา เน้นความแข็งแรงเป็นหลัก จนเมื่อออกรุ่น LCR โครงโพลิเมอร์ในปี ค.ศ. 2009 ถึงได้ขึ้นแท่นเป็นลูกโม่ .38 ห้านัดที่เบาที่สุดในตลาด (เดลินิวส์ 2 มิ.ย. 2555)
ปืนรุ่นแรกที่ ชาร์เตอร์ อาร์มส์ ผลิตออกขาย เป็นลูกโม่จุห้านัด ลำกล้องสองนิ้ว ตั้งชื่อรุ่นว่า “อันเดอร์คัฟเวอร์” (Undercover) ซึ่งสื่อความหมายว่าเป็นปืนพกซ่อน สำหรับงานตำรวจสายสืบ เทียบกับลูกโม่พกซ่อนของยุคนั้น โคลท์มี ดีเทคตีฟ สเปเชียล (Detective Special) ที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย จุหกนัด ส่วนสมิธฯ มี ชีฟ สเปเชียล (Chief Special : โมเดล 36/60) จุห้านัด ตัวเท่า ๆ กันแต่หนักกว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้งสามรายต่างใช้ชื่อที่เกี่ยวข้องกับวงการตำรวจเช่น เดียวกันอันเดอร์คัฟเวอร์ มีจุดที่เหมือนกับปืนโคลท์ คือ โม่หมุนตามเข็มนาฬิกา และร่องรับตัวล็อกโม่เยื้องจากจุดกลางโครงปืน ข้อดีของระบบนี้คือ ขายันให้โม่หมุนจะช่วยผลักโม่เข้าหาโครง ส่งผลให้การล็อกโม่มั่นคงขึ้น และร่องที่เยื้องศูนย์ก็เพื่อเลี่ยงตำแหน่งที่เนื้อเหล็กบางที่สุดของตัวโม่ ส่วนจุดที่เหมือนสมิธฯ คือปุ่มปลดล็อกโม่ ดันไปด้านหน้าเพื่อปลดล็อก และมีล็อกที่ปลายก้านคัดปลอกเพิ่มความแข็งแรง โดย ชาร์เตอร์ เพิ่มล็อกจุดที่สามบริเวณด้านบนบานพับ จึงกล้าคุยว่าแข็งแรงที่สุดในตลาด
จุดที่ ชาร์เตอร์ ทำก่อนใคร คือระบบแท่งส่งผ่านแรงนกสับไปท้ายเข็มแทงชนวน (Transfer bar) ส่วนบนสุดของหน้านกสับมีเนื้อโลหะยื่นไปยันโครงปืน ทำให้ท้ายเข็มแทงชนวนไม่สัมผัสกับหน้านกสับ ต้องเหนี่ยวไกมาจนสุด แท่งส่งผ่านแรงจึงจะยื่นขึ้นปิดท้ายเข็ม รับแรงนกสับส่งผ่านเข็มไปถึงชนวนท้ายกระสุนได้ ระบบนี้ต่อมาทั้งรูเกอร์ (ที่แผนแบบใกล้เคียงกับชาร์เตอร์) และ ทอรัส (ที่แผนแบบใกล้เคียงกับสมิธฯ) ต่างนำไปใช้ นอกเหนือจากจุดนี้แล้ว ชาร์เตอร์ คุยว่าด้วยลำกล้อง 8 เกลียวที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทำให้ อันเดอร์คัฟเวอร์ ยิงได้แม่นยำกว่า ความเร็วกระสุนสูงกว่าปืนที่ลำกล้องยาวเท่า ๆ กัน
โดยสรุป ชาร์เตอร์ อาร์มส์ อันเดอร์คัฟเวอร์ เป็นลูกโม่ .38 ห้านัด เหล็กล้วน ที่ตัวเล็กที่สุด เบาที่สุดในตลาด คือ 16 ออนซ์ หรือ 454 กรัม การออกแบบมีจุดเด่นหลายจุด ที่จัดว่าเป็นวิวัฒนาการต่อยอดจากปืนดีในตลาด ฝีมือผลิตเรียบร้อยแม้จะไม่ถึงขั้นประณีตสุดยอด จุดเด่นคือความสะดวกในการพกพา ความปลอดภัยสูง วัสดุดี แข็งแรง ดูแลง่าย ซ่อมง่าย จัดว่าเป็นปืนดีราคากันเอง จุดด้อยคือ ขายต่อยากกว่ายี่ห้อดัง ๆ ที่แพร่หลายอยู่ในตลาด.
.........................................................................
ข้อมูลสรุป
ขนาดกระสุน .38 สเปเชียล ยิงลูกแรงสูง +P ได้ โม่จุ 5 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา : 178x112x33 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 454 กรัม (สมิธฯ 560 กรัม, ทอรัส 638 กรัม และรูเกอร์ 735 กรัม)
แรงเหนี่ยวไก ดับเบิล 5500 กรัม (12 ปอนด์), ซิงเกิล 2000 กรัม (4.4 ปอนด์
วัสดุ เหล็กสเตนเลส ด้ามยางนุ่ม
อื่น ๆ ระบบแท่งถ่ายแรงจากนกสับถึงท้ายเข็มแทงชนวน
ลักษณะใช้งาน ต่อสู้ระยะใกล้ถึงปานกลาง, พกพาแบบไม่เปิดเผย
ตัวเลือกอื่น Smith M.60, Ruger SP 101, Taurus M.85
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
ที่มา:
http://www.dailynews.co.th/article/117526/190719