แพทย์แผนไทย โคราช รักษาโรค SLE ไขความลับวิธีรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง ( SLE)
รถตู้ให้เช่า ร้อยเอ็ด
หมอเอ ณัฐปราชญ์ คลินิก

http://board.postjung.com/data/669/669229-img-1365129375-1.jpg

 เป็นที่หวาดหวั่นไปทั่วโลก เมื่อประเทศเกาหลีเหนือ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี คิม จอง อึน ประกาศกร้าวพร้อมโจมตีฐานทัพของสหรัฐอเมริกาที่ตั้งอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ หลังจากที่สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ข้ามผ่านมายังคาบสมุทรเกาหลีในการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดขึ้น เมื่อเกาหลีเหนือออกมาประกาศเข้าสู่ภาวะสงครามกับเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องส่งเครื่องบินขับไล่รุ่น เอฟ-22 แร็ปเตอร์ ไปประจำที่ฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ในประเทศเกาหลีใต้

 

จากนั้น เมื่อวันที่ 4 เมษายน รัฐบาลเกาหลีเหนือได้อนุมัติแผนการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อโจมตีเป้าหมายใน สหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า เวลาแห่งสงครามใกล้มาถึงแล้ว แต่ทางฝั่งสหรัฐอเมริกายังเชื่อว่านี่เป็นเพียงแค่คำขู่ของโสมแดงเท่านั้น พร้อมกับออกแถลงการณ์เตือนให้เกาหลีเหนือหยุดการข่มขู่ และการยั่วยุดังกล่าวเสียที แต่ถึงกระนั้น ทางสหรัฐอเมริกาก็ได้เตรียมติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธแบบ THAAD (Terminal High Altitude Area Defense) บนเกาะกวม ในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อป้องกันฐานทัพสหรัฐฯ จากภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ

 

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้คนทั่วโลกพากันจับจ้องว่า จะเกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกา และเกาหลีเหนือ ขึ้นหรือไม่ และหากเกิดสงครามจริง ๆ เกาหลีเหนือจะสามารถต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาได้แค่ไหน เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า แสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐอเมริกานั้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก ณ เวลานี้ (ข้อมูลจาก globalfirepower.com) โดยมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพเตรียมพร้อมรบเป็นจำนวนมาก ขณะที่เกาหลีเหนือก็ถือว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีการเตรียมกำลังไว้พร้อมรบ ตลอดเวลาเช่นกัน โดยเป็นประเทศที่มีแสนยานุภาพทางทหารในลำดับที่ 28

 

ทั้งนี้ รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 ได้ยกแสนยานุภาพทางการทหารของสหรัฐอเมริกา และเกาหลีเหนือ ขึ้นมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ว่า สหรัฐอเมริกา-เกาหลีเหนือ จะสามารถเป็นคู่ต่อกรกันได้หรือไม่ โดยองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ให้ข้อมูลเรื่องกองทัพสหรัฐอเมริกาไว้ว่า...

 korat talk

ปัจจุบัน กองทัพสหรัฐฯ ตั้งฐานทัพอยู่ใน 156 ประเทศทั่วโลก รวมแล้ว 700 - 800 แห่ง มีกำลังพลประจำฐานทัพต่าง ๆ กว่า 255,065 คน ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกาเองนั้น ก็มีฐานทัพและคลังแสงรวมถึง 6,000 แห่ง จึงมีกำลังพลในประเทศและต่างประเทศ รวมกันกว่า 1,400,000 คน ในจำนวนนี้ เป็นทหารอเมริกันในต่างแดน 325,000 คน กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งยุโรป ออสเตรเลีย แอฟริกา เอเชีย อย่างเช่นที่ประเทศเกาหลีใต้นั้น มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ 40,258 คน ประเทศญี่ปุ่น มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ 40,045 คน ส่วนประเทศไทยเองก็มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ 113 คน

 อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบกำลังพลของสหรัฐอเมริกาที่พร้อมปฏิบัติการเมื่อเกิดสงครามแล้ว จะมีอยู่ทั้งสิ้น 1,139,034 คน ขณะที่กองกำลังเสริมจะมีราว 1,458,500 คน

ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกานั้น จากข้อมูลในเว็บไซต์  globalfirepower.com ระบุว่า อาวุธยุทโธปกรณ์หลัก ๆ ประกอบด้วย

 

รถถัง 8,325 คัน

รถถังประจัญบาน 1,934 คัน

รถถังหุ้มเกราะ 18,539 คัน

รถขนอุปกรณ์ 106,407 คัน

ปืนใหญ่ 1,791 กระบอก

ปืนเจาะเกราะรถถัง 28,000 กระบอก

เครื่องยิงจรวด 1,330 ชุด

เครื่องบินรบ 15,293 ลำ

เฮลิคอปเตอร์ 6,665 ลำ

เรือรบ 290 ลำ

เรือรบฟริเกต 24 ลำ

เรือพิฆาต (Destroyers) 61 ลำ

เรือดำน้ำ 71 ลำ

เรือบรรทุกเครื่องบินรบ 10 ลำ

เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 12 ลำ

เรือทุ่นระเบิด 14 ลำ

ฯลฯ

 

 

ฟากโสมแดง เกาหลีเหนือ ขณะนี้มีกำลังพลพร้อมรบที่ประจำการอยู่แนวหน้าแล้ว 1,106,000 คน และมีกองกำลังสำรองที่พร้อมเข้าสู่สมรภูมิอีก 8,200,000 คน ขณะที่อาวุธยุทโธปกรณ์ที่เกาหลีเหนือมีใช้นั้น หลัก ๆ ประกอบด้วย

 

รถถัง 5,400 คัน

รถถังประจัญบาน 2,580 คัน

รถถังหุ้มเกราะ 1,600 คัน

รถขนอุปกรณ์ 38,000 คัน

ปืนใหญ่ 3,500 กระบอก

ปืนเจาะเกราะรถถัง 17,000 กระบอก

เครื่องยิงจรวด 1,600 ชุด

เครื่องบินรบ 1,667 ลำ

เฮลิคอปเตอร์ 237 ลำ

เรือรบ 708 ลำ

เรือรบฟริเกต 3 ลำ

เรือดำน้ำ 70 ลำ

เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 471 ลำ

เรือทุ่นระเบิด 23 ลำ

ฯลฯ

 

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังมีขีปนาวุธที่มีรัศมีทำการแตกต่างกัน 4 ชนิด คือ ขีปนาวุธโนดอง รัศมีทำการ 1,000 กิโลเมตร, ขีปนาวุธ แตโปดอง-1 รัศมีทำการ 2,200 กิโลเมตร, ขีปนาวุธมูซูดาน รัศมีทำการ 4,000 กิโลเมตร และขีปนาวุธ แตโปดอง-2 รัศมีทำการ 6,000 กิโลเมตร

 

เมื่อเทียบกันแล้ว จะเห็นว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกามีจำนวนมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่น่ากลัวคือกองกำลังของเกาหลีเหนือก็มีจำนวนมากกว่าทางสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ก็หวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเพียงคำขู่ ไม่นำพาไปสู่การเกิดสงครามจริง ๆ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว คนหลายพันล้านคนทั่วโลกคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบอย่างมากมายที่จะเกิด ขึ้นตามมาเป็นลูกโซ่ได้

 

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

, globalfirepower.com

 

 
Go to top