เอพี - ไต้ฝุ่นทรงพลังที่สุดแห่งปี หมุนเกลียวเข้าหาทางเหนือของฟิลิปปินส์และทางใต้ของไต้หวันในวันศุกร์(20) ด้วยมีลมกระโชกสูงสุดดถึง 294 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่นแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ คาดหมายว่ามันจะส่งผลกระทบทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก
ศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่นแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯระบุว่าซูเปอร์ไต้ฝุ่นอุซางิ มีความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในช่วงค่ำวันศุกร์(20) และอยู่ห่างจากกรุงไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ราว 596 กิโลเมตร
เส้นทางของซูเปอร์ไต้ฝุ่น"อุซางิ"
ไต้ฝุ่นลูกนี้มีรูปแบบของพายุคล้ายกับเฮอร์ริเคน และตอนนี้ อุซางิ ถูกยกให้มีความรุนแรงเทียบเท่ากับเฮอร์ริเคนระดับ 4 ตามระดับมาตรวัดพายุเฮอร์ริเคนซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน ขณะที่พายุใดๆจะถูกยกสถานะเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นก็ต่อเมื่อมีความเร็วลมสูงสุดอย่างต่ำ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เวลานี้พายุทรงพลังกำลังอยู่บนเส้นทางที่จะพัดเฉียดใกล้หมู่เกาะบาตาเนส ทางเหนือสุดของฟิลิปปินส์ และมันจะเคลื่อนผ่านช่องแคบลูซอน ติดกับคาบสมุทรเหิงชุน ทางใต้สุดของไต้หวัน
รายงานของคริสตินา พีดีโนวสกี นักพยากรณ์อากาศของ AccuWeather เตือนว่าความแรงลมระดับล้างผลาญ ฝนที่จะตกลงมาอย่างหนักและปัญหาน้ำท่วมชายฝั่งจะคุกคามชีวิตและทรัพย์สินทั่วไต้หวัน โดยเฉพาะพื้นที่ทางใต้และตะวันออกของประเทศ ในวันเสาร์(21)จนถึงช่วงค่ำของวันเดียวกัน
ระดับความรุนแรงของซูเปอร์ไต้ฝุ่น"อุซางิ" จากภาพถ่ายดาวเทียม
ในรายงานของพีดีโนวสกี ยังคาดหมายด้วยว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนเข้าใกล้แนวชายฝั่งกว่างโจวของจีนและฮ่องกงในวันอาทิตย์(22) จากนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าจะอ่อนกำลังลง ถึงหากเป็นไปตามนี้ก็ประมาณการณ์ว่าความเร็วลมสูงสุดของมันจะลดลงมาเหลือ 156 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ยังเทียบเท่ากับเฮอร์ริเคนระดับ 2
อุซางิ มีเส้นผ่าศูนย์กลางมหึมาถึงกว่า 1,000 กิโลเมตร ซึ่งอิทธิพลของมันส่งผลให้มีฝนตกหนักทั่วเกาะลูซอน ทางเหนือของฟิลิปปินส์และทางใต้ของไต้หวัน ขณะที่มันมีปริมาณฝนสะสมใกล้ศูนย์กลางในรอบ 24 ชั่วโมงเกือบๆ 20 นิ้วเลยทีเดียว
หมู่เกาะบาตาเนส ต้องอยู่ภายใต้ระดับเตือนภัยพายุขั้นสูงสุด ส่วนจังหวัดอื่นๆอย่างน้อย 15 จังหวัดทางเหนือของฟิลิปปินส์ อยู่ภายใต้ระดับการเตือนภัยที่รองลงมา ด้วยเจ้าหน้าที่เตือนถึงภาวะน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่มและคลื่นพายุหมุนยกซัดฝั่ง(storm surges)
เอพี - ไต้ฝุ่นทรงพลังที่สุดแห่งปี หมุนเกลียวเข้าหาทางเหนือของฟิลิปปินส์และทางใต้ของไต้หวันในวันศุกร์(20) ด้วยมีลมกระโชกสูงสุดดถึง 294 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่นแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ คาดหมายว่ามันจะส่งผลกระทบทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่นแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯระบุว่าซูเปอร์ไต้ฝุ่นอุซางิ มีความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในช่วงค่ำวันศุกร์(20) และอยู่ห่างจากกรุงไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ราว 596 กิโลเมตร
เส้นทางของซูเปอร์ไต้ฝุ่น"อุซางิ"
ไต้ฝุ่นลูกนี้มีรูปแบบของพายุคล้ายกับเฮอร์ริเคน และตอนนี้ อุซางิ ถูกยกให้มีความรุนแรงเทียบเท่ากับเฮอร์ริเคนระดับ 4 ตามระดับมาตรวัดพายุเฮอร์ริเคนซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน ขณะที่พายุใดๆจะถูกยกสถานะเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นก็ต่อเมื่อมีความเร็วลมสูงสุดอย่างต่ำ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เวลานี้พายุทรงพลังกำลังอยู่บนเส้นทางที่จะพัดเฉียดใกล้หมู่เกาะบาตาเนส ทางเหนือสุดของฟิลิปปินส์ และมันจะเคลื่อนผ่านช่องแคบลูซอน ติดกับคาบสมุทรเหิงชุน ทางใต้สุดของไต้หวัน รายงานของคริสตินา พีดีโนวสกี นักพยากรณ์อากาศของ AccuWeather เตือนว่าความแรงลมระดับล้างผลาญ ฝนที่จะตกลงมาอย่างหนักและปัญหาน้ำท่วมชายฝั่งจะคุกคามชีวิตและทรัพย์สินทั่วไต้หวัน โดยเฉพาะพื้นที่ทางใต้และตะวันออกของประเทศ ในวันเสาร์(21)จนถึงช่วงค่ำของวันเดียวกัน
{youtube}XgeYkawZ-6A{/youtube}
ระดับความรุนแรงของซูเปอร์ไต้ฝุ่น"อุซางิ" จากภาพถ่ายดาวเทียม
ในรายงานของพีดีโนวสกี ยังคาดหมายด้วยว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนเข้าใกล้แนวชายฝั่งกว่างโจวของจีนและฮ่องกงในวันอาทิตย์(22) จากนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าจะอ่อนกำลังลง ถึงหากเป็นไปตามนี้ก็ประมาณการณ์ว่าความเร็วลมสูงสุดของมันจะลดลงมาเหลือ 156 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ยังเทียบเท่ากับเฮอร์ริเคนระดับ 2 อุซางิ มีเส้นผ่าศูนย์กลางมหึมาถึงกว่า 1,000 กิโลเมตร ซึ่งอิทธิพลของมันส่งผลให้มีฝนตกหนักทั่วเกาะลูซอน ทางเหนือของฟิลิปปินส์และทางใต้ของไต้หวัน ขณะที่มันมีปริมาณฝนสะสมใกล้ศูนย์กลางในรอบ 24 ชั่วโมงเกือบๆ 20 นิ้วเลยทีเดียว หมู่เกาะบาตาเนส ต้องอยู่ภายใต้ระดับเตือนภัยพายุขั้นสูงสุด ส่วนจังหวัดอื่นๆอย่างน้อย 15 จังหวัดทางเหนือของฟิลิปปินส์ อยู่ภายใต้ระดับการเตือนภัยที่รองลงมา ด้วยเจ้าหน้าที่เตือนถึงภาวะน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่มและคลื่นพายุหมุนยกซัดฝั่ง(storm surges)