นักโบราณคดีชาวบัลแกเรียขุดพบหลุมฝังศพ “แวมไพร์” ทางภาคใต้ของประเทศ ใกล้กับนครโบราณ “เปอร์เปริกอน”
นิโคไล ออฟชารอฟ นักโบราณคดีชื่อดัง เจ้าของฉายา “อินเดียนา โจนส์แห่งบัลแกเรีย” ออกมาเปิดเผยที่กรุงโซเฟีย เมืองหลวงของประเทศโดยระบุ เขาขุดพบหลุมฝังศพโบราณใกล้กับซากเมืองเปอร์เปริกอน ทางภาคใต้ของบัลแกเรียโดยภายในหลุมศพดังกล่าวพบซากศพที่ถูก “หมุดโลหะ” ตอกติดอยู่บริเวณหน้าอก และในเบื้องต้นเชื่อว่าหลุมศพนี้มีอายุเก่าแก่ย้อนไปถึงช่วงครึ่งแรกของ “คริสต์ศตวรรษที่ 13”
นิโคไล ออฟชารอฟ นักโบราณคดีชื่อดัง เจ้าของฉายา “อินเดียนา โจนส์แห่งบัลแกเรีย”
ออฟชารอฟซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักโบราณคดีแถวหน้าของยุโรปตะวันออกเปิดเผยว่า สิ่งที่เขาค้นพบสอดคล้องกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เคยมีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรว่า ผู้คนในยุโรปตะวันออกและยุโรปตอนใต้เคยใช้วิธีการหลายอย่างเพื่อสังหาร “แวมไพร์” หรือผีดูดเลือด ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่มีการบันทึกไว้ในเอกสารโบราณก็คือ การใช้หมุดโลหะตอกเข้าที่บริเวณหน้าอกเพื่อให้ทะลุหัวใจของสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าเป็น “นักล่าแห่งรัตติกาล” เพื่อมิให้พวกมันกลับมามีชีวิตได้อีก
นักโบราณคดีชื่อดังชาวบัลแกเรียเผยว่า นอกเหนือจากการสังหารแวมไพร์แล้ว ผู้คนในยุโรปตะวันออกยุคโบราณยังใช้วิธีการตอกหมุดโลหะบริเวณหน้าอกของคนธรรมดาที่เสียชีวิตด้วยสาเหตุที่ไม่ปกติด้วย อย่างเช่น ผู้ที่ฆ่าตัวตาย เป็นต้น ด้านบอชิดาร์ ดิมิตรอฟ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติของบัลแกเรียออกมาระบุว่า การค้นพบล่าสุดเป็นสิ่งที่ยืนยันความเชื่อของผู้คนที่อาศัยในแถบนี้เมื่อหลายร้อยปีก่อน และเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า “แวมไพร์” คือ สิ่งที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนในสมัยก่อนได้มากเพียงใด แม้จนถึงขณะนี้จะยังไม่มีหลักฐานใดที่ยืนยันว่า ผีดูดเลือดนี้มีตัวตนอยู่จริงก็ตาม
ทั้งนี้ เมื่อ 2 ปีก่อน สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า พบหลุมฝังศพของแวมไพร์ไม่ต่ำกว่า 100 หลุมในบัลแกเรีย และในอีกหลายประเทศทั่วคาบสมุทรบอลข่าน
ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์