นักวิทยาศาสตร์เผยกำเนิดการมีเซ็กซ์ ครั้งแรกน่าจะเกิดขึ้นเมื่อ 385 ล้านปีก่อนจากการศึกษาบรรพบุรุษของเรา ซึ่งเป็นปลาโบราณชนิดหนึ่งได้พัฒนารูปแบบ “การมีเพศสัมพันธ์” เป็นครั้งแรก
ปลาดังกล่าวเป็นเป็นปลาโบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้ว และเป็นกลุ่มปลามีเกราะในชั้น “พลาโคเดิร์ม” (placoderm) ซึ่งทีมนักวิทยาศาสตร์ด้านวิวัฒนาการที่ศึกษาเรื่องนี้ตั้งชื่อปลาดังกล่าวว่า “ไมโครบราเชียส ดิคกี” (Microbrachius dicki)
ตัวอย่างปลาโบราณดังกล่าวถูกพบครั้งแรกเมื่อปี 1888 ในสก็อตแลนด์ โดยมีความยาวประมาณ 8 เซ็นติเมตร และมีถิ่นอาศัยอยู่ในบริเวณที่ปัจจุบันกลายเป็นสก็อตแลนด์ เอสโทเนียและจีน โดยก่อนหน้านี้พบว่าปลาพลาโคเดิร์มเป็นสัตว์ยุคแรกๆ ที่มีขากรรไกร ซึ่งเป็นบรรพบุรุษมีกระดูกสันหลังแรกสุดของมนุษย์เท่าที่ทราบ
ล่าสุดรายงานที่ตีพิมพ์ลงวารสารเนเจอร์เผยว่า ไมโครบราเชียสในกลุ่มพลาโคเดิร์มคือสปีชีส์แรกที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อนำไปสู่การปฏิสนธิภายใน โดยปลาตัวผู้มีอวัยวะเพศแข็งเป็นรูปตัว L ที่เรียกว่า “คลาสเปอร์ส” (claspers) สำหรับนำส่งอสุจิให้ตัวเมีย ซึ่งในรายงานระบุว่า เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสืบพันธุ์มากกว่าการก่อหวอดในน้ำ ส่วนตัวเมียก็พัฒนากระดูกคู่เพื่อล็อกอวัยวะตัวผู้ให้อยู่กับที่เพื่อการผสมพันธุ์
จอห์น ลอง (John Long) ศาสตราจารย์ด้านบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยฟลินเดอร์ส (Flinders University) ในอะเดเลด ออสเตรเลีย ระบุว่า “ไมโครไบเชียส” หมายถึงแขนคู่เล็กๆ แต่นักวิทยาศาสตร์ก็โต้แย้งกันนานกว่าศตวรรษว่า กระดูกคู่ที่ว่านี้มีไว้เพื่อประโยชน์อะไรกันแน่ ซึ่งพวกเขาก็ไขปริศนาดังกล่าวได้ว่ามีใช้เพื่อผสมพันธุ์ ซึ่งช่วยให้คู่ตัวผู้สอดใส่คลาสเปอร์สเข้าบริเวณอวัยวะเพศตัวเมียได้
กระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังมีความคิดว่าการผสมพันธุ์ภายในนั้นเกิดขึ้นในช่วงปลายๆ วิวัฒนาการของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
ปลาพลาโคเดิร์มซึ่งมีแผ่นกระดูกหนาปกคลุมส่วนหัวและลำตัวนั้นครอง พื้นที่ในมหาสมุทร แม่น้ำและทะเลสาบของโลกราวๆ 70 ล้านปี จากนั้นก็สูญพันธุ์ไปหมดเมื่อประมาณ 360 ล้านปีก่อนในช่วงการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ และเป็นเวลาหลายสิบปีที่นักบรรพชีวินวิทยาเชื่อว่าปลาชนิดนี้คือวิวัฒนาการ ที่ล้มเหลว แต่จากการศึกษาโดย ศ.ลองและทีมอื่นๆ พบว่าพวกมันมีความสำคัญกว่านั้นมาก
ลักษณะสำคัญของปลาชนิดนี้อย่างขากรรไกร ฟัน และแขนขาคู่ ถูกส่งต่อมายังสัตว์เลื้อยคลาน นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งรวมถึงมนุษย์ด้วย และหากการศึกษาครั้งนี้ถูกต้อง แสดงว่า “คลาสเปอร์ส” ใช้เวลาหลายร้อยล้านปีวิวัฒนาการกลายเป็น “องคชาต”
ความสามารถในการสืบพันธุ์ด้วยเพศของไมโครบาเชียสนี้ถูกค้นพบเมื่อปี ที่ผ่านมา เมื่อ ศ.ลองสะดุดเข้ากับฟอสซิลที่เก็บรวบรวมไว้ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีในทัลลินน์ (University of Technology in Tallinn) เอสโทเนีย ซึ่งคาดว่าตัวผู้และตัวเมียอาจผสมพันธุ์ทางด้านข้างกัน โดยใช้อวัยวะเพศแข็งๆ ล็อคเข้าด้วยกัน ทำให้ตัวผู้สามารถจัดการอวัยวะเพศตัวเองให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อผสมพันธุ์
ตำแหน่งล็อตผสมพันธุ์ของปลาชนิดนี้อาจจะดูแปลกซึ่ง ศ.ลองก็ยอมรับเช่นนั้น โดยลักษณะใช้แขนขาสอดใส่กันนั้นทำให้เหมือนกันปลากำลังเต้น “ดู-ซี-ดู” (do-se-do) มากกว่ากำลังจับคู่ผสมพันธุ์
ขอขอบคุณ: POSTJING