ผ่านพ้นไปกับเกมนัดที่ สามในรอบแบ่งกลุ่มแชมป์เปี้ยนส์ ลีกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ยังคงไม่ทิ้งปัญหารอยโหว่ในแนวรับที่เสียประตูเป็นว่าเล่นจนกอง หน้ายิงกันจนลิ้นห้อย
“ปีศาจแดง” โดนบราก้าบุกมายิงนำไปก่อนถึง 2-0 ในเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนที่พวกเขาจะยิงไล่แซงจนเอาชนะเข้าวินไปแบบที่แฟนบอล “ปีศาจแดง” อาจจะลุ้นเหนื่อยหน่อย แต่นั่นไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับพวกเขาในฤดูกาลนี้ที่มักจะโดนยิงนำไปก่อน และพลิกมาไล่ยิงชาวบ้านเขาทีหลังเสมอ
แต่นั่นคงไม่ง่ายแน่นอนสำหรับเกมในวันอาทิตย์นี้ที่พวกเขาจะเจอกับเชลซี ซึ่งแม้ว่าจะพ่ายชัคเตอร์ โดเน็ตส์ทมาในเกมกลางสัปดาห์ แต่ความเขี้ยวและแนวรุกของพวกเขาที่เล่นกันในเกมลีกได้อย่างแข็งแกร่งจนครอง จ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ก็พร้อมที่จะลงโทษแมนฯยูไนเต็ดในยุค “โดนนำสไตล์” ให้ร้องไม่ออกก็ได้
ว่าแล้วเราก็มาลองวิเคราะห์ดูถึง 5 ปัจจัยสำคัญหลังจากที่พวกเขาพลิกชนะบราก้ามาดูว่าได้บทเรียนอะไรกันมาบ้าง ก่อนจะเดินไปสู่เกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง “ปีศาจแดง” และ “สิงห์ไฮโซ”
47
1.แมนฯยูไนเต็ดต้องการ "ถั่วน้อยตัวจริง"
เขาเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกของทีมมาตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ปีนี้ฟอร์มของเขาหดหายฮวบฮาบลงไป พร้อมกับการโดนวิจารณ์เรื่องความพยายามในสนามที่ลดลง “ถั่วน้อย” ของแฟนบอลหลายๆคนดูเหมือนจะตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันกับเฟร์นานโด ตอร์เรสที่ฟอร์มหลุดแบบหาสาเหตุไม่ได้
เมื่อช่วงเวลาไม่เป็นใจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะยิงแค่ไหนก็หลุดออกกรอบมันซะทุกครั้ง จับบอลแต่ละทีก็เด้งออกไปไกลเหมือนของร้อนที่เข้ากันไม่ได้ เอร์นานเดซจำเป็นต้องเรียกค่ำคืนอย่างเมื่อวันอังคารกลับคืนมาให้ได้เพื่อ สร้างความมั่นใจที่เขาเคยมี ความสามถารที่อยู่กับตัวเขาไม่ไปไหน ถ้าเขาทำได้ แน่นอนว่าไอ้หนูเม็กซิกันรายนี้ก็จะกลับมาชี้ชะตาให้เห็นถึงชัยชนะของทีมได้ อีกแน่นอน
2.อย่าเอาพี่ลูกเจี๊ยบไปเล่นกองหลัง ‘เด็ดขาด’ !!
จากความจำเป็นอย่างยิ่งในแนวรับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก เนมันย่า วิดิชยังไม่ฟิต, คริส สมอลลิ่งทำตัวสนิทสนมกับพยาบาล ไม่ต่างกับฟีล โจนส์ ทำให้ไมเคิ่ล คาร์ริคต้องขัยบจากมิดฟิลด์ลงไปยืนเซ็นเตอร์จำเป็น
แต่ตำแหน่งกองหลังใช่ว่าใครก็จะไปเล่นได้ง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ไม่ได้สัมผัสมันมาเกินครึ่งชีวิตด้วยแล้ว ความเข้าใจยิ่งมีน้อยลงไปอีก แน่นอนว่าแฟนบอลคงไม่อยากที่จะให้เขาลงไปยืนอยู่หน้าประตูบ่อยนัก
3.อย่าพลาดง่าย พลาดเยอะในเกมยุโรป
แม้ว่า “ปีศาจแดง” จะโชว์ความยวบในแนวรับออกมาในเกมล่าสุดของแชมป์เปี้ยนส์ ลีก แต่บราก้าก็แกร่งมากพอที่จะคงสกอร์ 2-0 ของพวกเขาเอาไว้ได้จนจบ ประสิทธิภาพในการจ่ายบอลและเทคนิคต่างๆของพวกเขาไม่เฉียบขาดพอเช่นกัน ถ้าเป็นทีมที่เด็ดขาดกว่านี้ลกทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันอาจจะเดินคอตกออกมาจากสนามก็เป็นได้
4.Fat Man And Robin นี่แหละใช่เลย
ยิ่งได้เล่นร่วมกันมากขึ้นเท่าไหร่ ความเข้าใจของเวย์น รูนี่ย์และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ที่มีต่อกันก็เพิ่มมากขึ้นไปตาม แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จับคู่เป็นสองหัวหอกจอมถล่มตาข่าย แต่ทั้งสองคนก็มักจะสอดส่องสายตามองหากันยามอยู่ในสนามและรู้ดีว่าไอ้นี่ แหละส่งไปไว้ใจได้แน่นอน
มีหลายช็อตที่ทั้งสองคนจับบอลได้อย่างนิ่มนวลตา แถมยังจ่ายต่อกันได้สวยและโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ก็สร้างมิติใหม่ในแนวรุกให้กับทีมแมนฯยูไนเต็ดเพิ่มขึ้นมาได้มากโข เลยด้วย
5.ไว้ใจ “เด็กฉลาด” แล้วชาติผีจะเจริญ
ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์พัฒนาตัวเองขึ้นมาแบบเกมต่อเองและถ้าเขายังปราศจากโรคภัยและ อาการบาดเจ็บที่เคยรุมเร้า แน่นอนว่าเขาจะเป็นตัวจริงให้กับสโมสรไปอีกตราบนานเท่านาน ด้วยวัยเพียงแค่ 23 ปีแต่เขาก็มีวิสัยทัศน์ ความสามารถและการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม รวมทั้งพละกำลังที่วิ่งไล่กวดในแผงมิดฟิลด์ที่ “ปีศาจแดง” ขาดหายไปนานหลายปี
นี่คือ 5 ข้อที่เราได้จากเกมยุโรปก่อนที่จะระเบิดบิ๊กแมตช์ในวันอาทิตย์นี้ แต่ที่แน่นอนเลยคือถ้าเกมรับยังเปื่อยยุ่ยโดยเฟอร์กูสันไม่มีการปรับแก้หรือ เสริมในจุดที่ควรแล้วและยังหวังไปตามไล่ยิงทีมที่เขี้ยวในแนวรับเหมือนอย่าง เชลซีที่ได้เล่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์ของตัวเองแล้วด้วยเนี่ย
พลพรรค “ปีศาจแดง” ก็เผื่อๆใจกันไว้บ้างด้วยล่ะครับ .....
ที่มา:http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=697317