นี่มันเป็นเกมที่โคตร เหลือเชื่อจริงๆ เมื่อเกมพลิกแล้วพลิกอีกอาร์เซนอลทำท่าจะเงิบโดนยิงก่อน 4-0 ไล่ตามตีเสมอได้ พลิกแซง โดนยิงเจ๊าแล้วนำอีกรอบจากแฮทริกของวัลค็อตต์ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เอาสรุปสุดท้าย "ปืนใหญ่" เอาชนะเรดดิ้งไปแบบสุดจะบรรยายด้วยสกอร์ 7-5
คลิ๊กที่นี่ ไฮไลท์ เรดดิ้ง 5 - 7 อาร์เซนอล
แคปปิตอล วัน คัพ รอบ 4
วันอังคารที่ 30 ตุลาคม 2555
เรดดิ้ง 5 - 7 อาร์เซนอล
สนาม : มาเดจสกี้ สเตเดี๊ยม
ประตู :1-0 โรเบิร์ตส์ น.13, 2-0 กอสเซียลนี่ น.19, 3-0 ไลเกอร์วูด น.20, 4-0 ฮันท์ น.37, 4-1 วัลค็อตต์ น.45+2, 4-2 ชิรูด์ น.64, 4-3 กอสเซียลนี่ น.89, 4-4 เจนกินสัน น.90+6, 4-5 ชามัคห์ น.103, 5-5 โพเกร็บเนียค น.116, 5-6 วัลค็อตต์ น.120, 5-7 ชามัคห์ น.120+2
ครึ่งแรก
หลังโคตรพลาด!โรเบิร์ตส์ชาร์จปืนโดนก่อนเลย
นาทีที่ 13 กองหลังพลาดง่ายไปหน่อยสำหรับอาร์เซนอลในจังหวะนี้ เพราะแบ็คซ้ายไปปล่อยให้เรดดิ้งพาบอลกระชากขึ้นหน้าไปแบบเห็นๆ ก่อนที่จะเปิดยาวไปเสาสองที่มีโรเบิร์ตส์พุ่งเข้าชาร์จสบายไม่มีใครประกบสัก คนส่งบอลเข้าไปอัดตาข่าย เรดดิ้งนำ 1-0
เจอแบบนี้ช็อก!กอสยิงตัวเองปืนโดน 2-0
นาทีที่ 19 ไม่มีใครคาดคิดจริงๆว่าอารเซนอลจะมาโดนถึ 2-0 ไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้ เมื่อพวกเขาเจอเรดดิ้งทำเกมขึ้นทางขวา จ่ายบอลกันอย่างสวย ก่อนที่จะเปิดยัดเข้าไปเสาแรก กอสเซียลนี่พยายามจะแหย่ขาสกัด แต่ดันไปโดนเหลี่ยมกองหน้าที่สะกิดบอลอย่างสวยพุ่งเสียบมุมแคบผ่านมือของ มาร์ติเนซเข้าประตูไป เกมห่างเลยตอนนี้
ช็อกยิ่งกว่า!มาร์ติเนซพลาดปืนโดนอีกเม็ด
อีกเพียงหนึ่งนาทีต่อมา อาร์เซนอลก็มาเสียประตูที่ 3 ไปแบบช็อกจริงๆ เพราะจังหวะที่กำลังเล่นเกมรับก็ดูเหมือนว่าจะโอเค แต่พอเคลียร์บอลไม่ขาด เลยเจอไลเกอร์วูดยิงสวน แม้ว่าวิถีของบอลจะไม่ได้หนีตัวมาร์ติเนซอะไรมากมาย แต่เขาดันปัดพลาดทำบอลปลิ้นเข้าประตูไปซะงั้น เกมพลิกสุดๆเพราะเจ้าบ้านนำถึง 3-0 แล้ว
ปืนได้แค่เคาะไปมา
ตอนนี้แม้ว่าอาร์เซนอลจะพยายามเหลือเกินที่จะทวงประตูคืนมาให้ได้ก่อน แต่พวกเขาก็ทำได้แค่ถ่ายบอลเคาะกันไปมารอบๆสนาม เพราะเรดดิ้งถอยไปยืนกันแน่นในแดนขงพวกเขาเอง แทบไม่มีช่องให้ลูกทีมของเวนเกอร์เข้าไปลุ้นประตูแบบจริงๆจังๆเลยสักนิด
บร๊เจ้า ... ปืนเละเทะโดนลูก 4
นาทีที่ 37 เจอแบบนี้ทำใจได้ยากจริงๆสำหรับแฟนบอลของอาร์เซนอลที่เดินทางมาเขีย์ทีมรัก ของตัวเอง เมื่อพวกเขามาโดนประตูที่ 4 เละเทะสุดๆในจังวะที่เสียบอลกลางสนาม ก่อนเจอเรดดิ้งถ่าวบอลออกข้างแล้วครอสเข้าในอย่วงรวดเร็ว เป็นฮันท์เทคตัวได้ก่อนกองหลังอาร์เซนอลโขกบอลสุดเฉียบผ่านมือของมาร์ติเนซ ชิ่งเสาเข้าประตูไป ไม่อยากจะเชื่อจริงๆสำหรับสกอร์ที่มีตอนนี้
ปืนลุยแหลกแต่ไม่ได้อะไร
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ไม่มีทางเลือกใดๆเลยสำหรับอาร์เซนอล นอกจากต้องเดินหน้าลุยอย่างเดียวเท่านั้น เพราะถ้ายังไม่ได้ประตูตีไข่แตกก่อนจบครึ่งแรกนี่บอกได้เลยว่าโอกาสพลิกยาก สุดๆ
ก็ยังดีวะ!ธีโอหลุดยิงตีไข่แตก
ช่วงทดเวลานาทีที่ 2 ในที่สุดอาร์เซนอลก็มได้ประตูที่จุดประกายความหวังเล็กๆให้กับพวกเขา เมื่อวัลค็อตต์วิ่งไปับบอลที่เพื่อนแทงทะลุช่องไม่ล้ำหน้า ก่อนจะโชว์ความเยือกเย็นชิพบอลนิ่มๆผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไป อาร์เซนอลตามมาเป็น 4-1 พร้อมเสียงเป่าหมดเวลาครึ่งแรก ต้องดูว่าในอีก 45 นาที เวนเกอร์จะปลุกเร้าลูกทีมจนสร้างปาฏิหารย์ได้หรือไม่
ครึ่งหลัง
ปืนลงมาหวิดเสียอีก
ลงมาครึ่งหลังแทนที่จะได้บุก กลายเป็นโดนกดดันหนักซะงั้นสำหรับอาร์เซนอล เมื่อเรดดิ้งทำเกมใส่แบบไม่ยั้ง ก่อนจะได้เตะมุมถึงสองครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังช่วยกันดีกันเอาไว้ได้ แม้ว่าหวุดหวิดเสียจุดโทษจากจังหวะที่ชามัคห์ไปเบียดผู้เล่นเจ้าบ้านล้มใน เขตโทษก็ตาม
ปืนเริ่มเซ็ตกันได้บ้าง
หลังจากมึนๆอึนๆกันไปในช่วงแรก ตอนนี้อาร์เซนอลก็เซ็ตเกมของพวกเขาได้ดีมากขึ้น มีจังหวะบุกจากทั้งวัลค็อตต์และชามัคห์ที่เกือบจะได้จุดโทษ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วก็ยังมีปัญหาเรื่องจังหวะสุดท้ายอยู่นั่นเอง
เอาเว้ยๆๆ!ชิรูด์ลงปุ๊บยิงปั๊บ
นาทีที่ 64 ไล่มาแล้วสำหรับอาร์เซนอล เมื่อชิรูด์ที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงสนามนั้นสวมบทซูเปอร์ซัพทำประตูให้กับ ทีมได้ในจังหวะเตะมุมที่เขาสอดไปโหม่งสะบัดส่งบอลพุ่งเสียบเสาสอง ทีมเยือนตามมาเป็น 4-2 ตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ปืนตอนนี้โมเมนตั้มมาแล้ว
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของอาร์เซนอลที่จะไล่ล่าคว้า 2 ประตูเพื่อตีเสมอให้ได้ เพราะการแก้เกมของเวนเกอร์ถือว่าทำได้ดี ตัวที่เปลียนลงสนามมีส่วนกับเกมทั้งหมด
เกือบเบิ้ล!ชิรูด์โขกติดเซฟ
นาทีที่ 77 จวนเจียนจะได้อีกประตูเหมือนกันสำหรับชิรูด์ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการลุ้นตี เสมอให้กับทีม จากจังหวะที่อาร์ชาวินเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขโทษ ชิรูด์โหม่งได้แบบเหมาะๆอีกครั้ง แต่คราวนี้เฟเดริชี่ไม่พลาด พุ่งปัดเอาไว้ได้เยี่ยมไม่แพ้กัน
ปืนลุยเฮือกสุุดท้าย
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ขอประตูที่สามก่อนเพื่อต่อโอกาสในการที่จะเข้ารอบต่อไปสำหรับอาร์เซนอลที่ ตอนนี้บุกกระจุยกระจาย เหลือแต่โอกาสที่จะจบสกอร์ให้ได้ถนัดๆชัดๆเพียงเท่านั้น แต่ถ้าดูจากเวลาก็ต้องบอกว่าเสียวไม่ทันแทนจริงๆ
แก้ตัวโว้ย!กอสโขกใส่เม็ด 3 ลุ้นระทึก
นาทีที่ 89 อาจจะมาช้าไปหน่อยรึเปล่าไม่รู้แต่ที่แน่ๆตอนนี้อาร์เนอลมีลุ้นสุดๆ เมื่อไล่ตามมาเป็น 4-3 จากลูกเตะมุมที่กอสเซียลนี่ได้ขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆส่งบอลเข้าประตูไป ต้องดูแล้วว่าเวลาที่เหลืออีกน้อยนิดพวกเขาจะทำได้หรือไม่
แฟนกรี๊ดคอแตก!เจนกินสันตีเจ๊าให้ปืน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่มีการทดเกินออกไปเป็น 5 นาทีเศษๆ ก็เอาจนได้จริงๆสำหรับอาร์เซนอลที่ทำประตูตีเสมอได้ราวกับปาฏิหารย์เมื่อเจน กินสันลุยขึ้นหน้าไปตวัดยิงผ่านมือผู้รักษาประตูไป แม้ว่าชอรี่ย์จะสกัดออกมาได้ แต่บอลมันข้ามเส้นไปแล้ว ทำให้จบ 90 นาทีต้องมีการต่อเวลากันออกไปอีกครึ่งชั่วโมงเพราะทั้งคู่เสมอกัน 4-4
ช่วงต่อเวลาพิเศษ
นาทีที่ 103 พลิกแล้วพลิกสุดสุดยอดไปเลยสำหรับอาร์เซนอลที่มาได้ประตูขึ้นนำครั้งแรกใน เกมนี้ จากลูกยิงนอกกรอบเขตโทษของชามัคห์ที่กดเลียดส่งบอลพุ่งเสียบเสาเข้าประตูไป เกมพลิกมาเป็น 5-4 ใครจะไปคิด
นาทีที่ 108 แลกกันคนละหมัดจนหวาดเสียวไปหมดเลย เมื่อวัลค็อตต์แตะหนีกองหลังของเจ้าบ้านก่อนที่จะหลุดเข้าไปยิงเน้นๆในกรอบ เขตโทษได้แต่โดนติดเซฟ ก่อนที่เรดดิ้งจะมีโอกาสหลุดเหมือนกัน แต่กอสเซียลนี่ก็ช่วยเอาไว้ได้
นี่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงกันเลยจริงๆเมื่อเรดดิ้งมาได้ประตูตีเสมอเอาคืนใน นาทีที่ 116 จากจังหวะการเปิดยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วบอลแฉลบกลายเป็นตั้งให้โพเก ร็บเนียคได้โหม่งจ่อๆไม่มีเหลือ สุดมันส์จริงๆเลยเชียว
แต่แล้วในนาทีสุดท้าย ธีโอ วัลค็อตต์ ก็เป็นฮีโร่ เมื่อสามาร๔ทำแฮตทริคได้ช่วยให้ ไอ้ปืนโตขยับนำ 6-5 ในช่วงเวลาสำคัญ
สุดท้ายอาร์เซนอลมาได้ประตูปิดกล่องจากลูกยิงชิพข้ามหัวของชามัคห์ในนาทีสุด ท้าย ช่วยให้อาร์เซนอลปิดฉากเกมพลิกนรกเดือดสุดมันส์เอาชนะเรดดิ้งไปด้วยสกอร์ 7-5
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เรดดิ้ง : อดัม เฟเดริซี่ 7, คริส กันเทอร์ 5.5,นิคกี้ ชอรีย์ 7, คาสปาร์ส กอร์คส์ 6, ฌอน มอร์ริสัน 6.5, มิเคเล่ ลีเกิร์ตวู้ด 7.5 , เจย์ แทบบ์ 6.5, แกเร็ธ แม็คเคลียรีย์ 7.5 (โจบี้ แม็คคานัฟฟ์ น.74, 7), ฮัล ร็อบสัน-คานู 7, โนเอล ฮันท์ 8 (พาเวล โบรเกร็บเนี๊ยค น.74, 7.5 ), เจสัน โรเบิร์ตส 8 (ไซม่อน เชิร์ช น.90′ +3, 6.5)
สำรอง : สจ๊วร์ต เทย์เลอร์ , เอียน ฮาร์ท , อเล็กซ์ เพียร์ซ , อดัม เล ฟอนเดร้
อาร์เซนอล : เดเมี่ยน มาร์ติเนซ 5.5 , คาร์ล เจนกินสัน 6.5 , โยฮัน ฌูรู 6, อิ๊กนาซี่ มิเกล 6 (เจอร์เนด มีด น.105′ +2, 6.5), โลร็องต์ กอสซิแอลนีย์ 5.5 , อังเดร อาร์ชาวิน 7.5 , เอ็มมานูเอล ฟริมปง 6 (โธมัส ไอสฟิลด์ น.61, 7 ), แซร์จ จีนาบรี้ 7 (โอลิวิเยร์ ชิรูด์ น.61, 8 ), ฟรองซิส โกเกอแล็ง 6.5 , มารูอาน ชามัก 7.5 , ธีโอ วัลค็อตต์ 8.5*
สำรอง : เจมส์ เชีย , เยนนาริส , เซบาสเตียน สกิลลาชี่ , เอ็คตอร์ เบลเลรอน , นิโก้ เยนนาริส
ที่มา:http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=701947