หลังจากที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้เลื่อนการพิจารณาตัดสินการใช้สนาม "บางกอก ฟุตซอล อารีน่า หนองจอก" ว่าจะสามารถใช้เป็นสังเวียนศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ได้หรือไม่ ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 31 ต.ค. ที่โรงแรม เซ็นท์ ริจิส สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ นำโดย เฟอร์นานโด มานิลอน ประธานกรรมการฝ่ายฟุตซอลฟีฟ่า, มุสตาฟ่า แฟมมี่ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน, ไฮเมยัสซา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายฟุตซอล, อเล็ก สโตนส์ เจ้าหน้าที่สื่อของฟีฟ่า และ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะกรรมการบริหารของฟีฟ่า ได้ร่วมกันแถลงความพร้อมก่อนเปิดสนามการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ขึ้นพร้อมกันนี้ยังเตรียมประกาศว่าจะให้สนามบางกอก ฟุตซอล อารีน่า ใช้แข่งขันได้หรือไม่ด้วยท่ามกลางความสนใจจากสื่อมวลชนคับคั่ง
หลังจากที่ใจจดจ่อรอคอยในท้ายที่สุดคณะกรรมการฟีฟ่า ก็มีมติอนุญาตให้ใช้สนามบางกอก ฟุตซอล อารีน่า สามารถใช้ทำการแข่งขันศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลกได้แล้ว โดยจะใช้ตั้งแต่เกมรอบก่อนรองไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยเหตุผลที่ให้ผ่าน ก็สืบเนื่องมาจากการที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ทำการทดสอบความพร้อมและระบบต่างๆ ของสนาม บางกอก ฟุตซอล อารีน่า ด้วยการจำลองเกมแข่งขันจริงกับทีมสื่อมวลชน โดยมีตัวแทนจากฟีฟ่าได้ทำการตรวจสอบระบบเอง และค่อนข้างพอใจกับความคืบหน้าที่ กทม. เร่งปรับปรุงจนสามารถแข่งได้
ทั้งนี้แม้ว่าฟีฟ่าจะประกาศให้สามารถใช้สนาม บางกอก ฟุตซอล อารีน่า ได้ แต่ก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ทางฟีฟ่ากำหนด นั่นก็คือ ตัวสนามและระบบความพร้อมต่างๆ ในสนาม ไม่ว่าจะเป็น ระบบไฟและเครื่องเสียง, ระบบรักษาความปลอดภัย, ห้องพักนักกีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะต้องเสร็จสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ภายในวันจันทร์ที่ 5 พ.ย.นี้
ขณะที่เรื่องของพื้นสนามที่อุปกรณ์ทั้งหมดจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันจันทร์ที่ 5 พ.ย.นี้ ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ได้อนุโลม ให้ทำการติดตั้งให้เสร็จภายใน 2 วัน ซึ่งเงื่อนไขทั้งหมดนี้จะต้องเป็นไปตามที่ฟีฟ่ากำหนดเท่านั้น
"บังยี" ขอบคุณฟีฟ่าที่ให้เวลา
ด้าน "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกมากล่าวหลังจากที่ทราบผลว่า ฟีฟ่ามีความพอใจในความพยายามของประเทศไทยที่เร่งก่อสร้างสนามให้เสร็จทันใช้ในการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกครั้งนี้ ซึ่งสุดท้ายก็ได้อนุญาตให้ใช้สนามบางกอก อารีน่า ได้ ก็ต้องขอบคุณฟีฟ่าที่ให้รอการพิจารณาจนถึงวินาทีสุดท้าย และชื่อว่าสนามแห่งนี้จะจัดการแข่งขันได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน
ส่วน ไฮเมยัสซา ก็เผยว่า หลังจากที่ได้ให้เวลากับสนามบางกอก ฟุตซอล อารีน่า เร่งสร้างให้มีความพร้อมมากที่สุด ก็เห็นว่ามีความคืบหน้าไปด้วยดี จึงมีมติให้ใช้เป็นสังเวียนในรอบก่อนรอง รอบรอง และรอบชิงชนะเลิศได้ แต่ข้อแม้ของเราก็คือทุกอย่างต้องเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ยกเว้นพื้นสนามที่จะต้องปูให้เสร็จภายในวันที่ 7 พ.ย.
ที่มา:http://www.siamsport.co.th/futsalworldcup2012/news_detail.php?IDNs=165101