คนอะไรไม่รู้ อายุตั้ง 50 ปีแล้ว ยังหล่อเหมือนเดิม!! ก็ตั้งแต่พ.ศ.2505 ที่"เจมส์ บอนด์" ภาคแรก Dr.No ออกฉายจนสร้างชื่อเสียงให้สายลับหนุ่มรูปหล่อมาจนถึงปัจจุบัน ภาพยนตร์ซึ่งสร้างจากนวนิยายของนักเขียนอังกฤษ เอียน เฟลมมิ่ง ได้กลายเป็นภาพยนตร์เเฟรนไชส์ที่สร้างภาคต่อ มาอย่างยาวนานถึง 50 ปี และพ่อหนุ่มคนนี้ยังดูดีไม่เปลี่ยนแปลง
ด้วยนักแสดงที่สวมบทบาทเป็นสายลับคนนี้ล้วนแล้วแต่ ถูกคัดเลือกมาว่าต้องทรงเสน่ห์ ตั้งแต่คนแรก ฌอน คอนเนอรี่ ที่ตอนนั้นมีดีกรีเป็น "มิสเตอร์สกอตแลนด์" ตามมาด้วย จอร์จ เลเซบี, โรเจอร์ มัวร์, ทิโมธี ดาลตัน, เพียร์ซ บรอสแนน และคนปัจจุบัน แดเนียล แคร็ก
ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา เจมส์ บอนด์ ครองตำแหน่งภาพยนตร์แนวสายลับสืบสวนสอบสวนอันดับหนึ่งของโลก โดยทำรายได้รวมกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 150,000 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้สายลับคนเก่งกลับมาอีกครั้งใน SKYFALL ภาคที่ 23 ของเเฟรนไชส์นี้ โดยฝีมือ
การกำกับของ แซม แมนเดส และมีการประกาศภาคต่อไป Bond 24 เข้าฉายในปีหน้าทันที ยืนยาวแข็งแรงขนาดนี้มาดูกันหน่อยสิว่าสายลับของเรามีอะไรน่าสนใจบ้าง
ทำไมต้องเป็น "007"
จะเป็น 001, 002, 003, 004, 005 หรือ 006 ไม่ได้หรือไร ?
คำตอบคือไม่ได้หรอก
เพราะ "รหัส 007" คือสัญลักษณ์ที่แสดงให้ทราบว่า นี่เป็นสายลับที่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งตัวเลขนี้ว่ากันว่าเฟลมมิ่งน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากสายลับชาวอังกฤษ จอห์น ดี ที่ส่งสาส์นลับให้ราชินีอลิซาเบธที่หนึ่งโดยมีด้วยตัวเลข 00 และเลข 7 หางยาว เพื่อบอกว่า "สำหรับพระเนตรของพระองค์เท่านั้น"
แต่บ้างก็ว่ามาจากตัวเลขของโค้ดที่อังกฤษเคยใช้แกะรหัสทางการทูตของเยอรมันได้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ต่างหาก
สาวๆ กับสุขภาพของบอนด์
นอก จากเนื้อเรื่องที่ตื่นเต้นระทึกใจ และแอ๊กชั่นมันส์ตามสไตล์ภาพยนตร์สายลับที่ทำให้ภาพยนตร์ชุดนี้ประสบความ สำเร็จแล้ว สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคงจะหนีไม่พ้นภาพจำของสายลับผู้เก่งกาจ ทรงเสน่ห์ ดึงดูดเพศตรงข้าม มีหญิงสาวสวยห้อมล้อมตลอดเวลา และเพียงแค่เขายักคิ้วหลิ่วตา ก็ดูเหมือนว่าบรรดาสาวๆ จะพากันหลงเสน่ห์แบบหมดตัวหมดหัวใจ และสุดท้ายก็มีอันต้องสานสัมพันธ์ลึกซึ้งกันทุกที!!
กิตติศัพท์ความ เจ้าชู้ของบอนด์ทำให้แฟนพันธุ์แท้รู้สึกห่วงใยในสุขภาพของชายหนุ่ม เพราะดูทีไรก็ไม่เห็นว่าเขาจะใช้ "เครื่องป้องกัน" โรคที่เกิดจากความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งเลยแม้แต่น้อย
แหม, ห่วงกันไปถึงนั่น
รักแท้ของสายลับ
ถึง จะเจอผู้หญิงมามาก แต่รักแท้ของบอนด์มีเพียงไม่กี่ครั้ง เพราะครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เขาเข้าพิธีแต่งงานเพียงครั้งเดียวเท่านั้น นั่นคือในตอน On Her Majesty?s Secret Service ในปี พ.ศ.2512 และก็ใช่ว่าจะได้ครองรักกันสมใจ เพราะเจ้าสาวของเขาถูกสังหารหลังแต่งงานได้ไม่นาน อย่างไรก็ตาม 37 ปีให้หลัง เขาพบรักแท้ในอีกครั้งตอน Casino Royale ก่อนจะพบว่าเธอเป็นนางนกต่อและสุดท้ายเธอก็ตายไป
เกิดเป็นผู้หญิงของใครไม่เป็น เป็นผู้หญิงของบอนด์จุดจบเลยไม่ค่อยจะสวยเท่าไหร่
สปอนเซอร์ของบอนด์
จะพูดถึงชีวิตรักโดยมองข้ามความสามารถก็ไม่ได้ เพราะถ้าเขาไม่เก่งกาจ คงไม่รอดมาจนถึงขณะนี้
ตัว ช่วยเสริมความเก่งของเขาคือ อุปกรณ์ไฮเทค ทั้งรถยนต์ ที่นอกจากจะโก้หรูแล้ว ยังทำอะไรได้มากกว่าเป็นยานพาหนะ สารพัดปืนที่มักมีความพิเศษมากกว่าปกติ นาฬิกาเรือนงาม หรืิอบางครั้งอาจเป็นกล้องถ่ายรูปสุดล้ำที่ถ่ายไปได้ถึงกระดูก
อุปกรณ์ ที่ว่าเหล่านี้ล้วนมีสปอนเซอร์สนับสนุน อย่างรถ Aston Martin ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคล่าสุด, รถ BMW ในภาคก่อนๆ, นาฬิกา OMEGA, ปืน Walther
และตอนนี้ยังรวมไปถึงเครื่องดื่มที่บอนด์ดื่มอีกด้วย
ก็แฟนคลับอาจจะอยากหามาไว้ใช้ให้ตัวเองดูเท่ห์เหมือนบอนด์บ้างก็ได้นี่นา...
เรื่อง ราวน่าสนใจบนเส้นทางเดินของ "เจมส์ บอนด์" จากอดีตจนถึงปัจจุบันคงจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะตราบใดที่เสน่ห์อันมากล้นของสายลับ 007 ยังคงดูดสายตาดึงใจคนดูได้
ทางเส้นนี้ย่อมยืดยาวต่อไปในอนาคตได้อย่างไม่ยากเย็น
หน้า 24,มติชนรายวัน ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน 2555
ที่มา:http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351736852&grpid=&catid=08&subcatid=0801