พันตรีหญิงลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ (Ladda Tammy Duckworth) เป็นลูกครึ่งไทย-อมเริกัน ผู้ลงสมัคร ส.ส.พรรคเดโมแคตร ที่จะกลายเป็นสตรีเชื้อสายไทยคนแรกที่จะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่ง ส.ส เขต 8 รัฐอิลลินอยล์
ทั้งนี้ แทมมี ดักเวิร์ธ จะต้องแข่งกับนาย โจ วอช ส.ส. ของพรรครีพับริกันผู้ดำรงตำแหน่งปัจจุบันและได้รับความสนับสนุนจากกลุ่ม Tea Party ซึ่งเขตเลือกตั้งที่ 8 รัฐอิลลินอยส์ ได้รับการคาดหวังจากพรรคเดโมแครตว่าจะเป็นหนึ่งในเขตที่จะสามารถชิงเก้าอี้ ส.ส.มาได้ และตั้งเป้าที่จะกลับมาครองเสียงข้างมากในรัฐสภาอีกครั้ง หลังจากมีเสียง ส.ส.เป็นรองพรรคริพับลิกันในสภาครองเกรสมาตั้งแต่การเลือกตั้งกลางเทอมที่ ผ่านมา และส่งผลต่อการทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา มาโดยตลอด แต่จะสามารถบริหารงานต่อได้หรือไม่ผลการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐจะเป็นคำตอบ
ด้วยเหตุผลนี้ทำให้คนไทยในชิคาโก เกิดความตื่นตัวในการออกมาช่วยกันหาเสียงให้กับ แทมมี ดักเวิร์ธโดย เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา ชาวไทยในชิคาโกได้จัดงานหาทุนช่วยการหาเสียงให้ คุณแทมมี่ ที่ร้าน Thai Little Home ณ เมือง Arlington Heights, USA. ยอดเงินสุทธิจากการรับบริจากในคืนนั้นรวมเป็นจํานวน 11,510 ดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับ ประวัติ แทมมี ดักเวิร์ธ เกิด เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2511 ที่กรุงเทพ เป็นบุตรีของแฟรงค์ แอล ดักเวิร์ธ ทหารผ่านศึก และนางละมัย สมพรไพลิน ครอบครัวของเธอโยกย้ายไปในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามหน้าที่การงานของบิดา เธอจบชั้นมัธยมและมหาวิทยาลัยที่ ฮาวาย และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน ปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์นอิลลินอยส์
แทมมี ดักเวิร์ธ เป็น ทหารผ่านศึกในสงครามอิรักและเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ แบลคฮอว์ค เฮลิคอปเตอร์ที่เธอขับ ถูกยิงตกในอิรัก เธอสูญเสียขาทั้งสองข้างและการใช้งานแขนข้างขวาบางส่วน และได้รับเหรียญตราหัวใจสีม่วง (Purple Heart) เธอดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยงานด้านกิจการทหารผ่านศึกแห่งมลรัฐ อิลลินอยส์ และเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งกลางเทอมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ที่รัฐอิลลินอยส์เมื่อปี พ.ศ. 2549
และ ในปี พ.ศ. 2555 ประธานาธิบดีโอบามาได้แต่งตั้งให้เธอดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก ในตำแหน่งนี้ เธอได้พยายามพัฒนาบริการภาครัฐสำหรับทหารผ่านศึก และกำจัดปัญหาการไม่มีที่อยู่อาศัยของทหารผ่านศึก แทมมีและสามีของเธอ พันตรีไบรอัน พำนักอยู่ที่เมืองฮอฟแมน เอสเตทส์
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก: http://www.praew.com , http://www.voathai.com , http://www.prachachat.net ,www.thaichicagousa.com , AP