เรื่องสั้นๆ อ่านกันยาวๆ (ปฐมบท ต่อนที่ 4)
บทที่ 8/4 โดย : ไอ้หัวเป็ด โคราช
สั้นๆ ต่อจากคราวที่แล้ว...พอให้คิดถึงกัน
แวะข้างทางบ่อย เกือบลืมจุดประสงค์ ที่ตั้งใจไว้แต่แรกไปเลย เอาเป็นว่าไม่นานนัก รถไฟได้มาถึง ชานชาลาที่ 3 ได้เวลาลงรถ เปิดประตู พยุงสังขาร เข้าบังเกอร์ส่วนตัว (เหมือนทหารบาดเจ็บ ยังไงก็ไม่รู้) “หวัดดีครับพี่” เสียงทักทายที่คุ้นเคย ภายในห้อง ทำงานอันอบอุ่น “เอ่อวะ” ผมตอบอย่างสไตล์ของผม อาจห้วนๆ ไปนิด แต่แฝงด้วยความเป็นกันเองกับลูกน้อง บรรยากาศเดิมๆ และไม่เป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่ ก็ห้องตึกแถวคูหาเดียวนี้ครับ จะมีห้องส่วนตัวได้ไง ไอ้เราก็แค่ art director ตัวเล็กๆ ภายในห้องแบ่งเป็นสัด เป็นส่วนได้ลงตัวดี ใช้พื้นที่ประโยชน์ใช้สอยอย่างเหมาะสม ขนาดห้องพอสมควรมีห้องน้ำในตัว สุขาชักโคก หน้าต่างบานเกล็ด 2 บาน ที่กระจกแตกไป ด้านละ 2 ช่อง ยื่นออกไปนิดหน่อยจากช่องบานเกล็ดหน้าต่าง เป็นตัวเครื่องแอร์ ส่งเสียงคำรามเหมือนคนขี้โมโห เป็นระยะๆ ออกมาหน้าห้องน้ำหน่อย สูงขึ้นไปเป็นตัวแอร์ เวลามันเย็น มันก็เย็นเฉียบแบบสุดๆ ไปเลย ไอ้ความเย็นมันตรงหัวผมพอดี (โต๊ะทำงานผมดันอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ สมน้ำหน้าตัวเองจริง) อย่างว่าละครับความเป็นผู้นำย่อมเสียสละได้ เคยๆ แล้ว ก็สบาย พื้นที่ส่วนใหญ่กั้นด้วย “พาเตชั้น” เป็นคอกๆ ระหว่าโต๊ะทำงานของแต่ละคน มีไฟนีออนหลอดยาวติดอยู่ สูงขึ้นไปเหนือศีรษะคนละดวง ใต้ชั้นวางหนังสือที่ออกแบบเป็นทางยาวตลอดแนวโต๊ะ มีทั้งหมด 5 โต๊ะ หมายความว่าแผนกผมมีทั้งหมด 5 คน โดยมีผมเป็นหัวหน้าทีม พนักงานแต่ละคน ก็เลยถูกบังคับให้หันหน้าเข้ากำแพง หันหลังให้ประตูทางเข้า เรียกว่า หวงจุ้ยไม่ดีเลยครับ เพราะคนนั่งทำงานลักษณะนี้ ทำให้มีความรู้สึกเสียวสันหลังตลอดเวลา เมื่อคิดในทางดี ก็เป็นการฝึก ระมัดระวังตัว ดีเหมือนกัน ส่วนฝั่งกำแพงอีกด้านจะเป็นส่วนของคอมพิวเตอร์ กราฟฟิกดีไซเนอร์ สมัยนั้นยังใช้ เครื่องแมคอินทอช 7200 อยู่ ถือว่านั้นละดีแล้ว G3 – G4 หรือรุ่นที่แรงๆ ไม่ต้องพูดถึง สมัยนั้นไม่มีหรอกครับ PC ก็ไม่เคยใช้ ส่วนมากสมัยก่อน พวก PC จะใช้ในงานเอกสารสำนักงานเท่านั้น ในแผนก Design จึงไม่รู้จักกัน แต่สมัยนี้ PC แรงๆ ก็ใช้ได้ดีเหมือนกัน อยู่ทีฝีมือครับ ผมว่านะ ไอ้ที่ใช้อยู่นี้พองานหนักๆ หน่อย มันก็อืดๆ ขึ้นมา โชว์รูปนาฬิกาทราย นานเป็นชาติ แบบว่าบุหรี่หมดมวน กาแฟหมดแก้ว มันยังชิวๆ ของมันอยู่เลย สมัยนั้นแรกๆ ที่เข้ามาทำงานที่นี่ เจ้านายเขาไม่ให้ผมแตะหรอกครับ ไอ้คอมพิวเตอร์นี้ พี่เขากลัวว่าผมจะลงทาง หมายถึง จะไปรบกวนการคิดงานของผม ทำให้หลงประเด็น (หรือจะกลัวเครื่องพังกันแน่) นายเขาเลยให้ผมคิดอย่างเดียว คิดแล้วก็ “สเก็ตๆ” ภาพออกมา แล้วก็ส่งต่อ ให้ลูกน้องทีเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ ดำเนินการต่อ เรียกได้ว่า “Lower technology” เลยละ ส่วนงานด้านฝีมือ วาดๆ เขียนๆ อันนี้ ไม่ได้เลย ต้อง”แก๊ป” ครับผม ก็เลยได้เป็น visual อาร์ต ควบไปด้วยอีกหนึ่งตำแหน่งอันทรงเกียรติ เอ้เรื่องนี้ เป็นเรื่องเพื่อน หรือเรื่องเราแน่ (ก็บอกตั้งแต่ต้นแล้ว นี้กล่องของผมครับ...คุณ) อย่าเบื่อละ เพราะทิศทางผมเป็นผู้กำหนด มันงานของผม (ไม่สนตลาด) เพียวอาร์ต ล้วนๆ
โปรดติดตามตอนจบในครั้งต่อไปนะครับ ขอบคุณ